วิธีบำบัดอาการปวดคอปวดไหล่และปวดหลังอย่างได้ผล
การนั่งทำอะไรในท่าเดิมซ้ำๆ
ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
การนั่งเย็บผ้าหน้าเครื่องจักร
หรือแม้กระทั่งการนอนในท่าทางที่ไม่สอดคล้องกับสรีระร่างกาย ล้วนแต่เป็นบ่อเกิดของอาการปวดคอ
ไหล่และหลังได้ทั้งนั้น ตั้งแต่วัยรุ่น ไปจนถึงวัยชรา เราจะพบเห็นอาการนี้ได้กับทุกคนเสมอ
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้หลายคนปวดคอ ไหล่และหลัง
มีอยู่ 3 ประการได้แก่
- การนั่งอยู่ในท่าทางใดท่าทางหนึ่งเป็นระยะเวลานานซึ่งผิดสุขลักษณะ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นหดเกร็งจนนำไปสู่อาการปวดหลังและคอได้ในที่สุด อาการเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ใช้หมอนที่ไม่พอดีกับระดับศีรษะเช่นหมอนที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไปและพบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานกับจักรเย็บผ้า
- เกิดจากอุบัติเหตุบริเวณคอและหลัง ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวคอที่เร็วและแรงมากเกินไป ทำให้เส้นเอ็นบริเวณคอเกิดการฉีกขาดได้ง่าย อาการเช่นนี้มักจะเกิดจากการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อคอเร็วกว่าปกติ ตกจากที่สูง ถูกทำร้ายร่างกายและได้รับบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุ
- อาการข้อเสื่อมที่พบมากในวัยผู้สูงอายุ สาเหตุเกิดจากการทำหน้าที่ของข้อและกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวเสื่อมสภาพไปตามอายุขัย จึงทำให้เกิดการเจ็บปวดและเมื่อยล้าบริเวณคอ ไหล่และหลังได้
แนวทางการรักษาในกรณีปวดคอ ไหล่และหลังเกิดขึ้น
สามารถรักษาไปตามอาการโดยการรับประทานยาแก้ปวดเพื่อระงับอาการปวด
อีกทั้งทำกายภาพบำบัดเพื่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนนั้นเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
สามารถทำกายภาพบำบัดได้ด้วยตัวเองที่บ้านอย่างง่ายดายดังนี้
- ยืนในท่าตรง ค่อยๆ ก้มหน้าลงช้า ๆ ให้ปลายคางจรดกับอก แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆ ทำเช่นนี้ต่อไปสัก 5 นาทีเป็นอย่างน้อย
- ตั้งหน้าให้ตรง จากนั้นค่อยๆตะแคงศีรษะไปทางซ้ายช้าๆ พยายามให้หูสัมผัสกับไหล่ซ้ายโดยที่ไม่ยักไหล่ และทำแบบเดียวกันกับข้างขวาสลับไปมา 5 นาที
- หมุนศีรษะโดยหันหน้าไปทางซ้าย โดยให้ปลายคางอยู่ในแนวเดียวกับไหล่ซ้าย จากนั้นหมุนศีรษะกลับมาช้าๆ ทำแบบเดียวกันกับข้างขวา 5 นาที โดยทำตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องทุกวัน จะทำตอนเช้าตอนเย็นหรือระหว่างวันก็ได้ทั้งนั้น
แม้ว่าการบริหารคอจะเป็นช่องทางหนึ่งในการรักษาผู้ป่วยที่ปวดคอ
ไหล่และหลังได้ แต่อย่างไรก็ตามการบริหารกล้ามเนื้อเช่นนี้ก็สามารถทำได้ในกรณีที่ปวดเมื่อยเพียงกล้ามเนื้อเท่านั้น
อีกทั้งเด็กและผู้ใหญ่บางคนสามารถทำได้ แต่สำหรับผู้สูงอายุในบางราย ก็ไม่สามารถทำการบริหารคอได้เนื่องจากกระดูกที่คอไล่มาจนถึงกระดูกสันหลังที่เสื่อมไป
เพราะฉะนั้นการบริหารกล้ามเนื้อคอ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาอาการให้ถูกต้องและรับทราบสาเหตุอาการป่วยของตนเองก่อนบริหารกล้ามเนื้อคอและไหล่