แนวทางการรักษาอาการนิ้วโป้งเท้าเก
วิธีการรักษาอาการมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ
1.
การรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด
สำหรับผู้ที่มีอาการไม่มากนัก ข้อผิดรูปไม่มาก สามารถดึงหรือดันแก้ไขได้
ไม่มีข้อเสื่อม แต่สำหรับผู้ที่มีอาการมาก แต่การผ่าตัดอาจจะเป็นความเสี่ยง
จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเพิ่มมากขึ้นได้ การพักฟื้นตัวหลังจากการผ่าตัดนั้น
จะต้องใช้เวลานาน จนเป็นผลเสียต่อผู้ที่มีอาการ
และที่จะพบอาการมากก็จะเป็นผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้สูงอายุ การรักษา ด้วยวิธีนี้
ก็คือ การทำแผ่นรองในรองเท้าเฉพาะที่ บริเวณเท้าของผู้ที่มีอาการ
การใส่รองเท้าที่มีความเหมาะสมกับเท้า และการใส่อุปกรณ์เพื่อช่วยในการประคบข้อนิ้วโป้งเท้า
ถือเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ
เนื่องจากสามารถสือหาต้นเหตุและความเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะของนิ้วโป้งเท้าเกได้
· แผ่นรองเท้าเฉพาะบุคคล
(Custom-made Insole)
เป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยในการจัดโครงสร้างของเท้าให้มีความเหมาะสมให้กลับมาอยู่ในรูปแนวที่ปกติ
เพื่อไม่ให้อุ้งเท้าแบนล้ม ไม่ให้กระดูกของส้นเท้าบิดล้มเข้าทางฝั่งด้านในเท้า
หรือเอ็นร้อยหวายบิดโค้งเข้าทางฝั่งด้านในได้
เนื่องจากเป็นความเสี่ยงต่ออาการของนิ้วโป้งเท้าเก
· การใส่รองเท้าที่มีความเหมาะสม
ก็คือการสวนรองเท้าที่มีขนาดพอดี ไม่คับจนเกินไป หัวของรองเท้ามีความกว้าง (Wide Toe
Box) เมื่อเวลาสวมใส่แล้วสามารถขยับนิ้วเท้าได้
ไม่บีบรัดนิ้วเท้ามากไป พื้นรองเท้าจะต้องมีความนุ่ม
ควรหลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าที่มีหัวส่วนปลายแหลมและบริเวณส้นเท้าสูงมากกว่าประมาณ 2 นิ้ว
· การใส่อุปกรณ์เพื่อช่วยในการประคับประคองนิ้วโป้งเท้า
ก็คือ เจลคั่นนิ้วเท้า (Gel Toe Separator) อุปกรณ์กันนิ้วโป้งเบน (Hullux
Valgus Splint) จะสามารถช่วยให้อาการนิ้วโป้งเท้าเกไม่เป็นมากกว่าเดิม
ทำให้เอ็นรอบข้อของนิ้วโป้งเท้ามีความหย่อน ช่วยบรรเทา
ช่วยลดอาการปวดบริเวณโคนนิ้วโป้งเท้าได้ดีอีกด้วย
· การบริหารเท้าสำหรับการป้องกันอาการและเป็นช่วยบรรเทาอาการเจ็บบริเวณนิ้วโป้งเท้าเก
(Foot Exercise For Prevent and Relief Bunion)
การทำการบริหารเท้าจะสามารถช่วยให้มุมของนิ้วโป้งเท้า
ที่เกิดอาการเกได้ช้าลง
เพื่อลดอัตราความจำเป็นต่อการผ่าตัดได้ควรทำเป็นประจำทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ
หลังจากเวลาที่ถอดรองเท้าแล้ว
· การเหยียดนิ้วโป้งเท้า
ด้วยการใช้มือดันนิ้วโป้งเท้า ให้อยู่ในแนวตรงเรียงตัวแนวเดียวกับนิ้วอื่นๆ
·
การเหนียดนิ้วเท้าทั้งหมดที่เกร็งแล้วชี้ไปในทิศทางเดียวกันเป็นเวลาประมาณ
10 วินาที
จากนั้นก็สลับด้วยการงอนิ้วเท้าทั้งหมดค้างไว้ประมาณ 10
วินาที ทำสลับกันไปมา ซ้ำๆหลายๆ ครั้ง
· การงอนิ้วเท้าทั้งหมด
กดนิ้วเท้าที่งอกับพื้นค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จากนั้นก็ปล่อยยกเท้าขึ้น ทำแบบเดิมซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง
·
ฝึกการหยิดด้วยนิ้วเท้า
ด้วยการใช้นิ้วเท้าหยิบสิ่งของต่างๆ วางลง และหยิบขึ้นมา ทำหลายๆ ครั้งซ้ำๆ ใช้ผ้าพันนิ้วโป้งเท้าให้อยู่ในมุมที่เป็นปกติเหมือนนิ้วอื่นๆ
เป็นการปรับตำแหน่งของนิ้วเท้า ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
2.
การรักษาด้วยการผ่าตัด การรักษาด้วยวิธีนี้ เฉพาะกับผู้ที่มีอาการปวดข้อผิดรูปมาก
มีภาวะของกระดูกเสื่อมร่วมด้วย ผู้ที่มีอายุน้อย
และมีการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงหลังจากการผ่าตัดแล้ว ผู้ที่มีอายุมากๆ
ไม่ควรที่จะรับการผ่าตัด ควรที่จะรักษาแบบการทำกายภาพบำบัดเท้า นิ้วเท้าก่อน
จะได้ไม่ต้องมีความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.icfoot.com/index.php?lite=article&qid=42107695
นิ้วโป้งเท้าเก