disable right click

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

การทำกายภาพบำบัดกับผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท


การทำกายภาพบำบัดกับผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

            โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท  นับวันจะมีผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งมาจากวัยที่ชราลง ที่กระดูกมีความเสื่อมลงตามอายุ  และ คนวัยทำงาน  ใช้แรงงาน  ผู้ที่อยู่ในรถ ขับรถเป็นเวลานานๆ และอีกมากมาย และส่วนใหญ่แล้ว จะไม่มีเวลาสนใจตนเองมากนัก ด้วยอาจเพราะต้องอยู่กับการทำงาน อยู่กับการรีบเร่งในแต่ละวัน คือถ้าไม่ปวดจริงจนทนไม่ไหว ก็คงจะทนทำงานต่อไปเรื่อยๆ จนไม่ไหวจริงๆจึงไปพบแพทย์ ไม่ว่าคุณจะป่วยเป็นโรคอะไรก็ตาม ปัจจัยหลักของการรักษา จะหายขาดได้ต้องรักษาแต่แรกเริ่ม  หรืออย่างน้อยทุเลาเบาบางลง
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมันน่ากลัวขนาดไหน


           คุณอาจพบเวลาคุณไปโรงพยาบาล คุณอาจพบเจอ คนไข้โรคดังกล่าวจะต้องได้รับการพยุง หรือนอน  จากญาติ จากทีมเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาล  บางรายรุนแรงจนทำอะไรเองไม่ได้แล้ว ซึ่งน่าเวทนามาก หากพบอาการปวดเอวเสียวลงถึงปลายเท้า  และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า คุณมีอาการของโรคนี้จริง ขั้นตอนการรักษาคงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ และแล้วแต่อาการและลักษณะของโรคของแต่ละบุคคลที่คงแตกต่างกันออกไป บางรายแพทย์อาจจะขอทำการเอ็กซ์เรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI  เพื่อต้องการทราบตำแหน่งเส้นประสาทต่างๆที่ถูกกดทับ เพื่อการรักษาที่แม่นยำ และแพทย์ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยการผ่าตัด 

           อย่างไรก็ตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอาจจะส่งผู้ป่วยไปให้นักกายภาพบำบัดทำการรักษาทางกายภาพดูก่อน ระยะหนึ่งว่าผลการรักษาเป็นประการใด แล้วจึงมาพบแพทย์อีกครั้งเพื่อตรวจดูการกดทับและอาการผู้ป่วยว่าได้ผลเป็นอย่างไร ดีขึ้น เบาขึ้น การกดทับมีระยะห่างขึ้น ก็อาจจะใช้วิธีกายภาพบำบัดต่อไปจนผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตเช่นคนปกติได้ ไม่ต้องผ่าตัด แต่หากตรงกันข้าม ก็คงต้องทำการผ่าตัดในที่สุด 


ทำกายภาพบำบัดกับผู้ป่วยได้หรือไม่ ?
          การทำกายภาพบำบัดส่วนใหญ่จะเน้นการลดอาการปวดไปควบคู่กับการยืดหลัง ในท่านอนคว่ำและให้ผู้ป่วยยกลำตัวด้านหน้าขึ้นอย่างช้าๆ อาจจะใช้ผู้ช่วยในการช่วยประคองตัว เพราะผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดและไม่มีแรง การก้มตัวมาด้านหน้า จะเป็นข้อห้ามรวมทั้งการวิ่ง  แม้คนไข้จะเริ่มมีอาการดีขึ้นก็ จะไม่สามารถวิ่งได้อีก การวิ่งเพียงช่วงสั้นๆสามารถทำได้ แต่วิ่งสม่ำเสมอเป็นเวลานาน อาจจะทำให้อาการของโรคกลับมาซ้ำอีกครั้ง และจะทวีความรุนแรงกว่าครั้งแรก ซึ่งส่วนใหญ่หากแพทย์ตรวจพบว่าคนไข้เคยรักษาทางกายภาพมาจนดีขึ้นแล้วกลับมาเป็นอีก

          อาการทวีความรุนแรงก็จะใช้วิธีเดียวคือการผ่าตัดรักษา การทำกายภาพอาจจะใช้เวลา 1 2 ชั่วโมงในแต่ละครั้ง สัปดาห์หนึ่งอาจจะต้องทำอย่างน้อย 2 3 หน อีกท่วงท่าที่ทำการกายภาพคือการยกขาด้านที่ผู้ป่วยมีอาการ ขึ้นมาในท่านอนหงายยกขาข้างที่ปวดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเริ่มมีอาการปวดก็จะหยุด แต่ตำแหน่งที่ผู้ป่วยจะรับความรู้สึกตรงนั้นได้ ควบคู่กับการทำอัลตราซาวด์ลดอาการปวดในตำแหน่งที่ผู้ป่วยปวดมาก และประคบด้วยความร้อนบริเวณเป็นจุดของอาการปวด ซึ่งอาจจะมีส่วนของกล้ามเนื้อต่างๆด้วยก็จะรักษาควบคู่กันไป

ที่มา : www.กายภาพบำบัด.com