รวมถึงการโหนลอยตัวไว้
แล้วเปลี่ยนท่าทางอยู่บนที่โหน ท่านผู้อ่านคงพอนึกออกนะคะ เคสนี้เล่นมาประมาณ 7
– 8 เดือนแล้วค่ะ จากการซักประวัติ เคสบอกว่าช่วงแรกๆที่เล่นนั้น
ร่างกายก็เมื่อยๆ เป็นธรรมดา เล่นไปก็รู้สึกดี คือเล่นแล้วเหมือนได้ออกแรง
ร่างกายก็สบายขึ้น แต่ 3 เดือนให้หลังนี้ เคสรู้สึกเมื่อยก้านคอมาก
(เป็นอาการเตือนช่วงแรกของร่างกายที่แสดงออกมาให้เห็น)
ต่อมาก็เริ่มมีอาการปวดเกร็งที่บ่าด้านขวา และอาการก็เพิ่มมากขึ้นคือรู้สึกซ่า ๆ
ชาๆ ลงตามแขนด้านใน จนถึงนิ้วกลางและนิ้วก้อยมีความรู้สึกตึงๆ อยู่ตลอดเวลา 1
สัปดาห์ก่อนมาพบผู้เขียน มีอาการชาร้าวลงที่แขนและมือ จนถึงมีอาการอ่อนแรง
ก่อนมาพบผู้เขียนเพียง 2-3 วัน
แต่เคสก็ยังคงออกกำลังกายแบบที่เล่นอยู่ หลังจากออกก็รู้สึกดี
แต่ข้ามวันก็จะกลับเป็นขึ้นมาอีก

teres02
ปัญหาของเคสคือ เคสมีจุดกดเจ็บ
มีความเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่ให้ความมั่นคงของสะบักด้านนอก นั่นคือ Teres
minor muscle และ Infraspinatus muscle กล้ามเนื้อสองมัดนี้
หน้าที่หลักคือให้ความมั่นคงแก่กระดูกสะบักและหัวไหล่ด้านนอก จากการซักประเพิ่มเติมที่เคสออกแรงในการโหนบนผ้านั้น
ก็ได้ทราบว่า เคสพยายามโหนตัวขึ้นให้ได้
แต่การออกแรงของเคสไม่ได้ใช้มัดกล้ามเนื้อให้ถูกต้อง
กล้ามเนื้อที่ใช้ออกแรงนั้นผิดมัดร่วมกับร่างกายของเคสที่ไม่สมดุลจากกระดูกสันหลังคด
และกล้ามเนื้อมัดที่ต้องพยุงให้หัวไหล่มั่นคงก็ไม่แข็งแรงพอต่อการใช้กำลังแขนโหนตัวให้ลอยขึ้น
จึงมีผลทำให้เคสเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา กลุ่มอาการนี้เป็นกลุ่มที่เรียกว่า Myofascial
pain syndrome เป็นอาการของเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ
ซึ่งจะมีอาการปวดร้าวได้ (Refer pain ) แต่ละมัดกล้ามเนื้อก็มักมีรูปแบบในการปวดร้าวที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
infraspinatus
teres_major
เคสนี้จากการรักษาครั้งแรกก็หายสนิท
ไม่เหลืออาการที่จุดไหนเลย ทั้งที่ก้านคอ สะบัก แขนและนิ้ว
แต่อย่างที่เคยทราบนั่นแหละค่ะ การทำให้อาการหายไปเลยอาจเป็นเรื่องไม่ยาก
แต่ทำอย่างไรไม่ให้อาการกลับมานั่นแหละยากค่ะ
เคสต้องกลับมาเพื่อเรียนรู้ร่างกายตนเอง
รู้จักการใช้กล้ามเนื้อและปรับให้ร่างกายสมดุลแข็งแรงพอต่อการออกกำลังกายแบบที่ตนอยากจะเล่น
ซึ่งการออกกำลังกายถ้าจะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายนั้น
เคสต้องออกแรงกล้ามเนื้อให้ถูกมัด จัดระเบียบร่างกายทุกขณะในการเคลื่อนไหว
ตรงนี้แหละที่จะทำให้ เคสหายได้อย่างถาวรค่ะ
เรื่องที่คาดไม่ถึงของเคสนี้
เป็นกรณีศึกษาของอีกหลายเคสค่ะ เพราะการออกกำลังกายแบบต่างๆ
ในบ้านเรากำลังเป็นที่นิยม แต่อย่าลืมนะคะ ที่ผู้เขียนเคยบอกไว้
การออกกำลังกายทุกอย่างดีหมด แต่ต้องอยู่ภายใต้การเล่นให้ถูกมัดกล้ามเนื้อและใช้ให้เป็น
ที่สำคัญร่างกายต้องพร้อมที่จะเล่น จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างแท้จริง
และไม่เกิดผลเสียต่อร่างกายค่ะ ฉบับนี้อาจจะตอบคำถามหลายๆ ท่านที่ชอบออกกำลังกาย
แต่ยังคงมีปัญหาและอาการปวดต่างๆ อยู่ อย่าละเลยเสียงเตือนของร่างกายนะคะ
เพราะนั่นเป็นสัญญาณเล็กๆ
ที่สำคัญที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงให้กับร่างกายคุณได้ในอนาคตค่ะ