disable right click

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2562

ปวดหลัง แนวทางการทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันในผู้ป่วยโรคปวดหลังตอนที่ 2




11.การยกของ
ก่อนจะเริ่มยกของควรคิดถึงน้ำหนักของที่จะยกเสียก่อน วางแผนถึงวิธีที่จะเคลื่อนย้ายของ จะได้ไม่ต้องบิดหรือเอี้ยวตัว เข้าใกล้ของนั้นให้มากที่สุด วางขาให้กว้างเท่ากับความกว้างของไหล่ หาท่าที่สมดุลของหลัง และพยายามเกร็งกล้ามเนื้อสำหรับพยุงหลังให้แข็งเกร็งขึ้น เพื่อให้หลังอยู่ในท่าเช่นเดียวกับก่อนที่จะยกของ
ให้งอสะโพกและเข่าลงเพื่อยกของขึ้น เมื่อลุกขึ้นยืนทำโดยเหยียดเข่าและสะโพก ระวังอย่าให้หลังโค้งงอ

12.การดึงหรือการดัน
ให้วางเท้าห่างจากกัน เท้าหนึ่งอยู่ข้างหน้า เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อช่วยพยุงหลัง และป้องกันไม่ให้หลังงอ วางมืออยู่สูงระหว่างเอว และกลางหน้าอก ถ้าหากเป็นไปได้ ให้ข้อศอกอยู่ด้านข้างลำตัว ดันหรือดึงวัตถุโดยใช้แรงจากกล้ามเนื้อขาและน้ำหนักตัว

13. การเคลื่อนย้ายของ
ใช้ข้อแนะนำสำหรับการยกของหรือเก็บของ ควรถือของนั้นให้ใกล้ตัวคุณมากที่สุดในขณะที่เคลื่อนย้ายของ ให้ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องพยุงหลังเพื่อให้หลังอยู่ในท่าที่สมดุล อย่าบิดหมุนสันหลังขณะถือของ ถ้าคุณจะต้องหัน ให้ขยับเท้าไปทางขวาหรือซ้ายของของนั้น
14.การดูดฝุ่น
พยายามดูแลให้หลังตรงในท่าที่สมดุล และจับก้านของเครื่องดูดฝุ่นไว้ชิดกับสะโพก อย่าก้มหรือเอี้ยวหลัง ใช้กำลังของขา และน้ำหนักตัวในการเคลื่อนเครื่องดูดฝุ่นไปข้างหน้าหรือข้างหลัง
15.การเอื้อม
เมื่อต้องเอื้อมหยิบของ ต้องดูแลให้หลังอยู่ในท่าที่สมดุลตลอดเวลา ไม่บิดเอี้ยวตัว อาจนั่งยองๆ หรือคุกเข่าเมื่อต้องการหยิบของที่อยู่ต่ำ หรือคุณอาจใช้วิธีเอื้อมโดยไม่ก้มหลังโค้งหรือบิดตัว
16.การทำอาหาร
กิจกรรมนี้ต้องใช้เวลานานในการยืนอยู่ที่หน้าเตาหรือเคาน์เตอร์ ขณะที่ยืน หลีกเลี่ยงการก้มหรือโน้มตัวไปข้างหน้า ให้หลังอยู่ในท่าที่สมดุล การพักเท้าข้างหนึ่งบนม้าเตี้ยๆ อาจจะช่วยได้ ถ้าจำเป็นต้องลดตัวให้ต่ำลงให้ใช้วิธีงอสะโพกและเข่า ไม่ใช่งอที่หลัง
ถ้าหากจำเป็นการวางเขียงสำหรับหั่นของบนเคาน์เตอร์ ควรจะยกพื้นผิวในการทำงานขึ้นมาให้อยู่ในระดับที่ทำให้สบายขึ้น ควรนั่งบนม้านั่งหากทำงานกับเคาน์เตอร์ที่ต่ำ

17.การจัดที่นอน
ไม่ควรก้มหลังจัดที่นอน ควรคุกเข่าลงเพื่อเหน็บผ้าปูเตียง หรือย่อเข่าและต้นขาลง ควรรักษาท่าที่สมดุลของหลังไว้เสมอ หากต้องเอื้อมข้ามเตียง ให้วางเข่าข้างหนึ่งบนเตียง และเหยียดขาข้างหนึ่งออกไปข้างหลัง เช่นเดียวกับก่รเอื้อมไปหยิบของข้างหน้า
18.การตัดหญ้า
ถือมือจับของเครื่องตัดหญ้าให้อยู่ใกล้ตัวที่ระดับสะโพก ใช้แรงกล้ามเนื้อขาและน้ำหนักตัว เพื่อเคลื่อนเครื่องตัดหญ้ามากกว่าการใช้แรงดันจากกล้ามเนื้อหลังของคุณ เวลาดันเครื่องตัดหญ้าไปทางข้างหน้า ยืนให้เท้าของเหลื่อมไปข้างหน้าและหลัง เมื่อจะหันเครื่องควรใช้หัวแม่เท้า ชี้ไปทิศทางเดียวกับทางที่ต้องดันเครื่องไป เพื่อมิให้มีการบิดตัวเกิดขึ้น
19.การทำสวน
การทำสวนอาจจะลำบากสำหรับผู้ปวดหลัง เนื่องจากจะต้องลดตัวลงต่ำอยู่ใกล้กับพื้นดินตลอดทาง ยกเว้นจะได้ยกร่องสวนให้สูงขึ้น หรือทำเฉพาะบนกระถาง หรือภาชนะ (เป็นทางเลือกที่ดีของผู้เป็นโรคปวดหลัง) หรือทำงานโดยคุกเข่าลง ใช้ผ้ารองหัวเข่าและทำงานภายในรัศมีการเอื้อมของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการก้ม ตัวไปข้างหน้า หรืออีกทางหนึ่งคือ ทำโดยการคลานใช้ขาและมือรวมเป็นสี่ข้างเพื่อรักษาหลังของคุณให้อยู่ในท่า ปกติ
20.การใช้พลั่ว จอบ และคราด
ควรทำโดยถือมือจับไว้ใกล้สะโพก ใช้การย่อเข่าเพื่อออกแรงดันไปทางข้างหน้า หรือดึงมาข้างหลัง ให้หลังอยู่ในท่าที่สมดุล เมื่อใช้พลั่วหรือเสียมตักหรือแซะยกขึ้นโดยใช้แรงที่ขาและให้น้ำหนักของ นั้น อยู่ใกล้ชิดตัว หันปลายเท้าไปในทิศทางที่ต้องการเพื่อหลีกเลี่ยงการบิด หรือเอี้ยวกระดูกสันหลัง ในระหว่างการทำงานทั้งหมดนี้ให้ศีรษะของคุณตั้งตรงตลอดเวลา (โดยไม่ก้ม)
21.การซ่อมรถยนต์
คงเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อมโดยให้หลังอยู่ในแนวตั้งตรง แต่สามารถจะย่อตัวได้ที่บริเวณสะโพกและเข่า เพื่อให้หลังอยู่ในท่าที่สมดุล และยังสามารถพยุงหน้าอกไว้กับบังโคลนหรือใช้แขนพยุง เพื่อลดความเครียดต่อหลัง หยุดทำงานเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเหยียดหลังเป็นระยะๆด้วย