โรคกระดูกพรุนถือว่า
เป็นโรคทางด้านกระดูกและข้อที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัย
ที่มีผลต่อผู้ป่วยแม้จะไม่ถึงกับมีผลรุนแรง
ที่แสดงความเจ็บปวดมากเท่ากับโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาจเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับเส้นประสาทของร่างกาย
มีผลต่อเพียงส่วนของกระดูกเท่านั้น
รวมทั้งตำแหน่งของร่างกายไม่ถึงกับเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อผู้ป่วยที่อาจกระทบรุนแรงจนเกิดการสูญเสียอะไรบางอย่างตามมา
ที่ผู้ป่วยอาจพิการ หรือไร้ความรู้สึกในบางส่วนของร่างกายได้หากมีอาการรุนแรง
หรือได้รับการรักษาที่ช้าเกินไป และถือว่าเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทที่เชื่อมกับกระดูกสันหลัง
ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกายอย่างมากและละเอียดอ่อนในการดูแลตนเองและการรักษา
เด็กวัยรุ่นกับโรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุนมักไม่เกิดกับเด็ก
และวัยรุ่น มักจะเกิดกับผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยเพศหญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว
เป็นส่วนใหญ่ ด้วยเพราะในวัยเด็ก
ยังเป็นช่วงอายุที่มวลกระดูกของร่างกายคนเรานั้นกำลังเสริมสร้างให้มีความหนาแน่น
และส่วนที่สึกหรอก็ถูกกำจัดลงไปในกระบวนการของการทำงานของมวลกระดูก จนถึงวัย 30
ที่จะหยุดการสร้างมวลกระดูกเพราะมีความหนาแน่นเต็มที่
ช่วงวัยดังกล่าวแม้จะไม่อยู่ในความเสี่ยง แต่ก็ไม่ควรประมาท
เพราะเราทุกคนนั้นย่อมต้องถึงวัยชรามาเยือนไม่วันใดก็วันหนึ่ง
หากเราไม่เสียชีวิตไปก่อน หากเราดูแลตนเองตั้งแต่วันเด็ก
เสริมสร้างการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ งดเครื่องดื่มอัลกอฮอร์ และ บุหรี่
ทั้งมีการเสริมอาหารประเภทที่มีแคลเซี่ยมมากๆเพื่อช่วยบำรุงกระดูกและข้อที่กำลังพัฒนาเจริญเติบโตให้แข็งแรงมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น นม เนยแข็ง ปลาตัวเล็ก ปลากระป๋องที่มีกระดูกปน กุ้งแห้ง
อาหารประเภทถั่ว งา รวมถึงผักที่มีใบเขียวทุกชนิด
ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างบำรุงกระดูกได้เป็นอย่างดี
การดูแลตัวเอง
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
และใส่ใจตนเองละเว้นเครื่องดื่มที่เป็นของมึนเมา
ไม่ใช่แต่จะช่วยในเรื่องโรคที่มากับกระดูก แต่เพียงอย่างเดียว
เราจะป้องกันตนเองในทุกๆโรคที่จะมาทำอันตรายต่อตัวเราเองได้เป็นอย่างดีทีเดียว
แม้จะไม่ถึงขั้นว่าจะไม่มีโอกาสเป็นเลย แต่อย่างน้อยทำให้เรามีสุภาพพลานามัยที่ดี
เมื่อดีแล้ว มันเป็นช่วยเสริมป้องกันโรคได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างน้อย
หากเราปฎิบัติตนเองดีและเสริมสร้างอาหารที่มีคุณประโยชน์ มาแต่วัยเยาว์
เมื่อเราอายุมากจนเป็นผู้สูงอายุ
เรามีพื้นฐานที่ดีในการดูแลมันเหมือนเกาะป้องกันอย่างดี
เราอาจจะไม่ต้องนั่งเก้าอี้เข็น
เราไม่ต้องให้ใครมาพยุงเดิน หรือทำกิจวัตรเองไม่ได้ คอยเป็นภาระกับคนรอบข้างและคนใกล้ชิดที่จะต้องมาคอยเอาใจใส่ดูแลอยู่ตลอดเวลา
เราจะยืนหยัดที่จะสามารถปฎิบัติภารกิจทุกอย่างได้เอง ไปได้ตลอดชีวิต
มีคุณภาพชีวิตที่ดี นั่นแหละคือการดูแลตนเองอย่างดีตั้งแต่ต้นจนเข้าสู่วัยชรา
วีถีชีวิตคนแบบนี้ เป็นวิถีที่ช่างมีแต่ความสุข 
