ท่าเคลื่อนไหวข้อต่อ แบบมีคนทำให้ผู้ป่วยอัมพาต (Passive exercise) ดังนี้
1. เคลื่อนไหวข้อส่วนแขน
1.1 การยกแขนขึ้นและลง
1.3 การหมุนข้อไหล่เข้า- ออก
1.4 เหยียดข้อศอก เข้าและออก
1.5 กระดกข้อมือขึ้นและลง
1.6 กำนิ้วมือเข้าและเหยียดนิ้วมือออกไป

1.6 กระดกนิ้วโป้งขึ้นและลง
2. วิธีการเคลื่อนไหวข้อส่วนขา
2.1 งอและเหยียดข้อเข่าข้อสะโพก
2.2 หมุนข้อสะโพกเข้า หมุนข้อสะโพกออกไป
2.3 กางขาออกไปและหุบขาเข้าของข้อสะโพก
2.4 การกระดกข้อเท้าขึ้นและกระดกลง
3.วิธีการเคลื่อนไหวข้อไหล่ที่ให้ผู้ป่วยทำได้ด้วยตนเอง
ให้ผู้ป่วยเอามือสองข้างประสานกันจากนั้นยกมือขึ้นเหนือศีรษะขึ้นและลง
การทำกายภาพบำบัดหลังจากระยะอ่อนแรงหรือเริ่มฟื้นตัว
เมื่อผู้ป่วยได้รับการทำกายภาพบำบัดในระยะแรกหรือระยะอ่อนแรงแล้ว ผู้ป่วยจะเริ่มมีแรงเพิ่มขึ้น การฝึกก็จะต้องเปลี่ยนแปลงจากเดิม โดยให้เคลื่อนไหวข้อเหมือนกับในระยะอ่อนแรง ต่างตรงที่ต้องเพิ่มแรงต้านขึ้น เช่น การกางสะโพกไปด้านข้างให้ต้านแรงให้ผู้ป่วยด้วย และก็มีการฝึกที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ฝึกการทรงตัวในท่านั่ง ท่ายืน เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวที่ปกติ ซึ่งต้องปรึกษานักกายภาพบำบัดต่อไป
การฟื้นฟูผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตครึ่งท่อน
ปัญหาที่พบ คือ ผู้ป่วยไม่สามารถขยับแขน ขา หรือช่วยเหลือตนเองได้ เกิดเป็นภาวะแทรกซ้อนตามมา คือ
1. ความดันต่ำ โดยผู้ป่วยที่นอนนานๆ จะมีความดันต่ำลง สังเกตได้จากขณะที่เปลี่ยนท่าจากนั่งมานอนจะรู้สึกเวียนหัว หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
2. ขาบวม เกิดได้จากการไม่ได้เคลื่อนไหวเลย หรือนอนนานๆ ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี
3. หลอดเลือดดำเกิดอุดตัน เกิดจากไม่ได้เคลื่อนไหวขาเป็นเวลานาน ๆ เกิดเป็นลิ่มเลือดที่ขา
4. แผลกดทับ เกิดแผลที่ปุ่มกระดูกจากการนอนนาน ๆ
5. ข้อติด เกิดการยึดติดของข้อและการหดรั้งของกล้ามเนื้อ เมื่อนานเข้าทำให้เกิดการผิดรูปของข้อ ในบางกรณีอาจพบอาการปวดร่วมด้วย
หลักการที่ใช้รักษาฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อนทางกายภาพบำบัดเบื้องต้น
- ทำกายภาพบำบัดหลังจากได้รับการรักษาจากแพทย์จนอยู่ในภาวะที่คงที่แล้ว
- ให้ทำการเคลื่อนไหวข้อต่อเหมือนกับในกรณีของผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก แต่ต้องระวังในรายที่มีการดามเหล็กอยู่ภายใน ไม่ต้องทำเกินกว่าที่ผู้ป่วยจะทำได้
- ออกกำลังกายโดยให้มีแรงต้านในกล้ามเนื้อในส่วนที่ยังสามารถทำได้อยู่ เพื่อให้ได้ใช้กล้ามเนื้อที่เหลืออยู่ทดแทนกล้ามเนื้อที่ไม่สามารถทำงานได้
- ไม่ควรที่จะปล่อยให้ผู้ป่วยนอนนาน ๆ ควรแนะนำให้ผู้ป่วยนั่งบ้างในผู้ป่วยรายที่พอนั่งได้ หรือให้ผู้ป่วยยืนบ้างในรายที่สามารถเดินได้
ที่มา : thaigovweb.com/mophweb/file/doc/news2927-171109-161141.doc
กภ.ธนเศรษฐ์ กงแก้ว งานกายภาพบำบัดโรงพยาบาลสังขะ อ้างอิงจาก
- สำนักพัฒนาวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.2547.แนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการทางการแพทย์ฝ่ายกาย.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมชุมการเกษตรแห่งประเทศไทย
- ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวง
สาธารณสุข