disable right click

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เมื่อรองเท้าก่อปัญหา ตอนที่ 2



เมื่อรองเท้าก่อปัญหา ตอนที่ 2
 การเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหาปวดเท้าตามมา
1. เลือกคู่ที่มีขนาดเหมาะสม ความยาวรองเท้าที่เหมาะสม นั่นก็คือ ส้นเท้าจะต้องชิดส้นรองเท้าพอดี และหัวรองเท้าเหลือพื้นที่เท่ากับความกว้างนิ้วหัวแม่มือ เมื่อทำการวัดจากนิ้วเท้าที่ยาวที่สุด โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนิ้วหัวแม่เท้าเสมอไป หัวรองเท้าลึกและกว้างพอจนไม่สามารถกดและเสียดสีกับนิ้วเท้าได้ ทั้งนี้ส่วนที่กว้างที่สุดของรองเท้าควรที่จะตรงและพอดีกับตำแหน่งที่กว้างที่สุดของเท้าของเรา
2.ควรเลือกซื้อรองเท้าในช่วงบ่าย หากต้องเดินในช่วงกลางวัน ควรที่จะเลือกซื้อรองเท้าในช่วงบ่าย เพราะเท้าของเราจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเมื่อผ่านการเดินตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เนื่องจากเลือดไหลเวียนลงสู่บริเวณเท้ามากขึ้น จึงเหมาะที่จะเลือกรองเท้าในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อที่จะป้องกันปัญหารองเท้าคับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมและชีวิตประจำวันของผู้สวมใส่ด้วย
3.ควรลองรองเท้าทั้งสองข้างเสมอ เท้าของคนเราสองข้างจะไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรลองรองเท้าทั้งสองข้างและลองเดินไปเดินมาด้วย เพื่อตรวจสอบว่าสบายเท้าหรือไม่
4. ต้องเผื่อที่กันคับ ทั้งนี้หากผู้ที่สวมใส่รองเท้าจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมในรองเท้าต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น แผ่นกันรองเท้ากัด แผ่นรองเท้า ฯลฯ ซึ่งจะทำให้รองเท้าคับขึ้น ก็ควรที่จะเลือกรองเท้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย
5.รองเท้าไม่แบนจนเกินไป  พื้นรองเท้าที่แบนราบจนกินไป จะไม่เหมาะกับสรีระของเท้าต่อการรับน้ำหนัก ดังนั้นควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นที่นิ่มและเสริมบริเวณอุ้งเท้าจึงจะดีกว่า

วิธีการเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะสมกับรูปแบบชีวิต ลักษณะและรูปแบบเท้าของแต่ละคน
1.นักกีฬา ควรที่จะเลือกรองเท้าที่มีพื้นที่นิ่มและมีความยืดหยุ่นเพื่อที่จะรองรับกับแรงกระแทกได้ดี  หากนักกีฬาใช้ปลายเท้าเป็นส่วนมาก ตัวอย่างเช่น นักวิ่ง ควรที่จะเลือกรองเท้าที่ออกแบบให้รองรับกับแรงกระแทกส่วนหน้าโดยเฉพาะ
2.ผู้ที่มีอาการปวดฝ่าเท้าด้านหน้า มักพบกับผู้ที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ  ดังนั้นจึงควรเลือกรองเท้าส้นเตี้ย ที่มีพื้นนิ่ม และมีหน้ารองเท้าที่กว้าง เพื่อลดการเสียดสีและการบีบของเท้า
3.ผู้ที่มีเท้าแบน ฝ่าเท้าที่แบนจะทำให้ปวดบริเวณกลางฝ่าเท้าได้ เนื่องจากเอ็นที่ทำหน้าที่ยกอุ้งเท้าจะถูกดึงยืด  ดังนั้นจึงควรสวมรองเท้าที่เสริมอุ้งเท้า (พื้นรองเท้าที่นูนขึ้นตรงอุ้งเท้า) เพื่อช่วยเส้นเอ็นพยุงอุ้งเท้าได้ 
4.ผู้ที่มีอุ้งเท้าสูง จะปวดฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า เพราะการรับน้ำหนักของบริเวณอุ้งเท้าส่วนกลางได้หายไป  รองเท้าจึงควรที่จะมีลักษณะเสริมอุ้งเท้า เพื่อจะช่วยกระจายน้ำหนักจากบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้ามายังอุ้งเท้า ทั้งนี้จึงควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นที่นิ่มและมีความยืดหยุ่น
5.ผู้ที่ปวดส้นเท้า การปวดส้นเท้ามักเกิดจากจุดยึดพังผืดส้นเท้าอักเสบ ทำให้ปวดมากเมื่อเดินก้าวแรกหลังจากตื่นนอน เพราะว่าพังผืดถูกยืดแบบทันทีทันใด รองเท้าที่เหมาะ ควรที่จะมีพื้นที่นิ่ม มีส้นเล็กน้อยเพื่อที่ถ่ายน้ำหนักไปยังเท้าส่วนหน้าได้ การที่ใส่รองเท้าที่มีการเสริมอุ้งเท้า และนวดฝ่าเท้าก่อนการลุกจากเตียงรวมทั้งการบริหารยืดเอ็นร้อยหวาย ที่ทำได้โดยการนั่งเหยียดขาข้างที่ต้องการยืดไปยังด้านหน้า แล้วใช้ผ้าคล้องที่ปลายเท้าเอาไว้ ขาอีกข้างหนึ่งชันเข่าขึ้น และออกแรงดึงปลายผ้าสองข้างเข้าหาตัว จนรู้สึกว่าส่วนน่องตึง ค้างไว้ที่ 10 วินาทีนับเป็น 1 ครั้ง ทำวันละ 10 ถึง 15 ครั้ง จะสามารถช่วยลดการปวดเท้าและลดการช้ำได้ 
6.ผู้ที่เป็นเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปลายประสาททำงานผิดปกติ ทำให้เท้าชา มีนิ้วเท้าหงิกงอ ทำให้ฝ่าเท้าด้านหน้ารับน้ำหนักมากและนิ้วเท้าเสียดสีกับหัวรองเท้า จึงควรเลือกใส่รองเท้าพื้นนิ่ม มีหัวลึกและกว้าง ห้ามใช้รองเท้าคีบ เพราะอาจทำให้เกิดแผลบริเวณร่องนิ้วเท้าได้โดยไม่รู้ตัว

จะเห็นได้ว่ารองเท้าเป็นได้ทั้งตัวก่อปัญหาและตัวแก้ปัญหา ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับเท้าของเราหรือไม่