disable right click

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท วิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วยที่เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท


           ภาวะของอาการปวดกระดูก ข้อต่อส่วนต่างๆของคนเรา ในทุกวันนี้เกิดขึ้นไม่เฉพาะแต่ผู้สุงอายุ มันคืบคลานเข้ามาในชีวิตคนเรามาถึงวัยหนุ่ม วัยสาว หรือแม้แต่ผู้ที่เคยทำงานหนัก ทำงานกลางแดด คนใช้แรงงาน  และรวมทั้งการเกิดอุบัติเหตุเฉียบพลัน รุนแรงจากการกระแทก เป็นต้น
            แต่อย่าเพิ่งตกอกตกใจไปก่อน หากคุณมีอาการเริ่มปวดหลัง  มันอาจจะยังไม่ใช่อาการของโรคร้ายดังกล่าวนี้ก็ได้  อาการของโรคนี้ผู้ป่วยจะมีอาการปวด เสียว ร้าวตามเส้นประสาทลงมาที่ขา   เราต้องหมั่นสังเกตตนเองว่าอาการปวด ปวดรูปแบบใด  บางอย่างมีอาการใกล้เคียงกัน แต่ไม่ใช่ การปวดกล้ามเนื้อรุนแรง จากการทำงานหนัก ยกของหนักด้วยท่าที่ผิด หรือ รีบร้อนยกของ หรือ นั่งในท่ากดรั้งเป็นเวลานานๆต่อเนื่องกันหลายๆวัน โดยขาดการออกกำลังกายที่ถูกวิธี และท่าบริหารกล้ามเนื้อ และหลัง  ก็ทำให้เรามีอาการคล้ายคลึงกันจนบางทีแยกไม่ออกว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจริงหรือไม่ ต้องได้รับการตรวจละเอียดโดยแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้านอีกครั้ง


 วิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
            หากการรักษาบรรเทาอาการลงมามากแล้ว  วิธีต่างๆนี้หากผู้ป่วยยังคงมีอาการปวดหนักมากอยู่ คงยังไม่สามารถใช้วิธีดังกล่าวได้ คนที่มีอาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจริงๆ อาการจะทรมานมากๆ ปวดตามเส้นประสาทลงมาที่ขา ชนิดที่เรียกน้ำตาได้ตลอดเวลา จะขยับเคลื่อนตัวไปไหนก็สุดแสนจะทรมาน เพราะจะปวดร้าวไปหมด  จะมีบางท่วงท่าเท่านั้นที่ไม่กดทับจึงจะทำให้ลดอาการปวดลงได้ เช่นคนที่หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
           หากอาการของมันรุนแรงจนแสดงตัวชัดเจน แรกๆอาจจะทายา แล้วอาการดังกล่าวหายไปเป็นพักๆ จนทำให้ผู้ป่วยชะล่าใจคิดว่า ปวดหลังธรรมดา แต่เวลาเริ่มเนิ่นนานไปเรื่อยๆ และไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยอาการจากแพทย์ ได้แต่ทานยาแก้ปวด  ทายากล้ามเนื้อ เป็นครั้งๆไปแล้วอาการดีขึ้นเป็นพักๆ  แต่เมื่อเราทำอะไรซ้ำๆให้เกิดแรงกดของกระดูกสันหลังไปอีก เช่น ชีวิตประจำวันต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์  นั่งตลอดเวลา หรือ ต้องขับรถเป็นเวลานานต่อเนื่องโดยไม่ลงจากรถเลยเป็นเวลานานหลายชั่วโมงอาจจะด้วยภาวะรถติดที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทำให้อาการนี้รุนแรงสะสมมาเรื่อยๆโดยที่ผู้ที่ป่วยไม่รู้ตัวว่าเรานั้นกำลังเป็นโรคนี้อยู่ 
             เมื่อผู้ป่วยมีอาการแล้ว และได้รับการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์อาจจะด้วยวิธีใดก็ตาม ผู้ป่วยต้องทำความเข้ากับตัวเองเลยว่า เรานั้นจะไม่สามารถปฏิบัติตน หรือทำงานหนักได้เหมือนคนปกติได้แล้ว ไม่เช่นนั้นอาการก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิมอีก 

วิธีป้องกันตนเองหลังอาการดีขึ้น
          มีหลายวิธี ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดท่าทางของร่างกายเป็นหลัก  ไม่ว่าจะการยืนที่ให้น้ำหนักค่อนไปทางส้นเท้า ฝึกแขม่วท้องระหว่างยืน นอน เดิน และต้องเดินในท่าอกผาย ไหล่ผึ่ง คือให้ร่างกายตรงจริงๆ เพื่อให้กระดูกสันหลังตั้งตรงเสมอ นั่งก็ต้องนั่งหลังตรง การขับรถก็ต้องปรับให้พนักพิงโอบหลังเป็นมุมฉาก  การยกของก็ต้องนั่งลงกบพื้นแล้วจึงยกของขึ้นมา   และไม่ควรยกของหนักจนเกินไป 


             หากทำได้เช่นนี้อาการก็จะบรรเทาลงไป ผู้ป่วยจะใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ  ข้อระวังอย่างหนึ่งคือ ห้ามวิ่ง  การออกกำลังกายโดยการวิ่งจ็อกกิ่งนานๆ จะทำให้กระดูกสันหลังส่วนที่ถูกกดทับได้รับการกระแทก  การดูแลตนเองมีส่วนสำคัญอย่างมาก  หากทำได้ คุณก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขได้เช่นกัน

ที่มา : health.mthai.com