อาการ เริ่มปวดเข่า เมื่อยตึงทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเข่า
หรือบริเวณน่องเวลาเดินค่อนข้างมากทุกครั้ง
ต่อมาจะปวดมากขึ้นและปวดร้อนจะรบกวนการนอนหลับ ต้องหยุดพักการใช้เข่าอาการจึงดีขึ้น เมื่อใช้เข่าเดินอีกก็จะปวดมากอีก เอามือคลำดูที่หัวเข่ามีเสียงกรอบแกรบแสดงว่าเข่าหลวม
ลุกนั่งหรือเดินขึ้นบันไดก็ปวด และมีอาการเข่าอ่อน เข่าทรุด เจ็บเข่า
บางครั้งมีเสียงในข้อ นั่งพับเพียบไม่ได้
เพราะจะปวดมากหลังการนั่งพับเพียบ
กลุ่มที่มีความเสี่ยง
มักพบในผู้สูงอายุเกือบทุกคน
ผู้ที่ใช้ข้อเข่ามาก เช่น นักวิ่ง วิ่งเท้าเปล่า ชอบกระโดดเท้าเปล่า
เป็นต้น
คนทั่วไปที่มีอิริยาบถไม่ถูกต้อง เช่น นั่งพับเพียบ นั่งยอง ๆ
ทำให้ห้วเข่ามีการกดเบียดเสียดสีและสึกกร่อน เป็นต้น
ได้รับอุบัติเหตุที่เข่า
ชอบสวมรองเท้าส้นสูง
ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
เมื่อมีเข่าเสื่อมมากขึ้นผู้ป่วยจะใช้เข่าไม่ค่อยได้
แม้แต่เดินปกติยังปวดตลอดเวลา
พอเคลื่อนไหวผู้ป่วยจะรู้สึกมีเสียงในข้อรู้สึกเหมือนกระดูกกระทบกันเพราะผิวข้อไม่เรียบ ข้อปวดบวมอักเสบ มีน้ำในข้อเข่า กดแล้วเจ็บมากขึ้น
การรักษา
ช่วงที่ปวดมากให้หยุดพักการใช้เข่า
และให้ทานยาแก้ปวดอักเสบ เช่น นาโพรไซน ไอบูโพรเฟน เป็นต้น และใช้ยาทาถูนวด
หรือประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ
เมื่ออาการทุเลาลง ไม่ค่อยรู้สึกปวดแล้ว ให้บริหารข้อเข่าเพื่อให้กล้ามเนื้อที่พยุงข้อเข่ามีความแข็งแรงจะช่วยดึงรั้งไม่ให้กระดูกเข่าชนกันมาก
โดยเริ่มจากท่าง่าย ๆ ทำบนเตียงหรือบนเก้าอี้ได้ อย่างเช่น
นอนหงาย
วางแขนไว้ข้างลำตัว
งอเข่าข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งวางราบ หรือใช้หมอนรองเข่า แล้วยกขาข้างที่เหยียดขึ้น ค้างไว้ให้ขาตึงสูงจากพื้น 1 ฟุต เท่านั้น นับ
1-10 ค่อยๆวางขาลง ทำ 5 ครั้ง
จากนั้นสลับข้าง และควรหาตุ้มน้ำหนักมามัดไว้ที่ขาข้างที่จะยก
เพื่อเพิ่มพละกำลังให้แก่ขาด้วยจะดียิ่งขึ้นถ้าทำแล้วเจ็บเข่ามากขึ้น
แสดงว่าบริหารมากไป
นั่งบนเตียงหรือเก้าอี้ หลังตรงหรือพิงพนัก
ถ้าร่างกายแข็งแรงให้ถ่วงน้ำหนักที่ข้อเท้า แล้วยกเท้าขวาขึ้น ใช้เวลา 3 วินาที
กระดกข้อเท้าขึ้น ค้างไว้ 1-2 วินาที ยกเท้าลง และทำซ้ำ ให้ทำข้างละ
8-10 ครั้ง เมื่อไม่ค่อยเจ็บให้เพิ่มจำนวนครั้ง
นั่งบนเก้าอี้ หลังพิงพนัก สองขาไขว้กันออกแรงต้านจนขาเกร็ง ค้างไว้ 2
วินาที พักสักครู่แล้วทำซ้ำ 10 ครั้ง
ให้ยืนเกร็ง เข่างอเข่าเล็กน้อย คล้ายท่ายืนรำมวยจีน แล้วยืดตัวขึ้นให้เข่าตรง
ทำสลับกัน ทำ 5-10 ครั้ง แล้วเพิ่มจำนวนครั้งขึ้นที่ทำได้
หลีกเลี่ยงการใช้เข่าในชีวิตประจำวันมากเกินไป การเดินมาก ๆ ขึ้น-ลง บันไดมาก นั่งยอง ๆ ขัดสมิ พับเพียบ
เพราะจะเพิ่มแรงตึงในข้อเข่า ทำให้เข่าอักเสบปวดได้ หากปฎิบัติได้ดังนี้แล้วยังมีอาการปวดแสดงว่ากระดูกที่หัวเข่ามีการสึกไปมาก ควรหาไม้เท้ามาช่วยเวลาเดิน
และสามารถเปลี่ยนหัวเข่าเทียมได้ ควรไปพบแพทย์
ซึ่งแพทย์ตรวจอาการและวินิจฉัยได้โดยไม่จำเป็นต้องฉายเอกซเรย์