
เมื่อรู้สึกว่ารักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย ก็ต้องลองแพทย์ทางเลือกอื่นๆ ดูบ้าง
อาจจะไปนวดแผนโบราณ ฝังเข็ม กดจุด
นวดเท้า หรืออะไรอื่น ๆ ไปเรื่อยๆ
เมื่อไม่หายอีกก็เห็นจะต้องพึ่งศาสตร์ประเภทน้ำมนต์กันบ้าง หรืออะไรอีกหลายๆ
วิธีที่จะมีคนแนะนำ ในที่สุดถ้าไม่ดีขึ้นอีก หมดที่พึ่งแล้วก็จำเป็นต้องปลงอนิจจัง ทนอยู่กับอาการปวดหลังกันต่อไป ถือเสียว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นกรรมที่เราต้องชดใช้
เอ....แล้วศาสตร์ไหนกันนะที่จะช่วยรักษาอาการปวดหลังนี้ได้ดีที่สุด
ในความเป็นจริงนั้นไม่ว่าคนเราจะรักษาด้วยศาสตร์ใดๆ จะมีทั้งผู้ป่วยที่รักษาหายเด็ดขาดกับไม่หายเลย และรักษาหายบ้างไม่หายบ้างเป็นอย่างนี้ทุกศาสตร์
จึงไม่มีศาสตร์ใดที่ดีที่สุดในโลกครับ...การรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยคนนั้นจึงดีที่สุดสำหรับเขาคนนั้น
แต่ไม่แน่ว่าผู้ป่วยคนอื่นจะหายด้วยการรักษาวิธีเดียวกัน การรักษาทุกชนิดต้องเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนจึงถูกต้องที่สุด นั่นหมายความว่า ไม่มีสูตรสำเร็จในการรักษา แต่มีวิธีรักษาหลายรูปแบบที่ช่วยให้หายได้ ฉะนั้นการมีวิธีรักษาให้เลือกมากๆ
จึงเป็นสิ่งที่ดี เพราะอาจมีวิธีหนึ่งที่เหมาะสมกับเราก็ได้
ผมเองเป็นด่านท้าย ๆ ที่จะได้รับผู้ป่วย ไม่มีผู้ป่วยคนไหนปวดหลังปุ๊บมาหาผมเป็นคนแรก แต่มักจะผ่านการรักษามาแล้วจากหลายๆ
ศาสตร์ เมื่อผู้ป่วยรักษามาแล้วหลาย ๆ
วิธี แต่ไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ก็แสวงหาทางรักษาใหม่มาจนถึงมือผมนี่ละ
ดังนั้นผู้ป่วยของผมส่วนใหญ่จึงปวดหลังเรื้อรัง ปวดมา 3 ปีบ้าง 5 ปีบ้าง 10ปีบ้าง
20ปีบ้าง มีทุกรูปแบบ แต่ที่น่าดีใจก็คือ ผู้ป่วยปวดหลังเรื้อรังแบบนี้รักษาให้เห็นผลได้ดีกว่าผู้ป่วยปวดหลังเฉียบพลันเสียอีก