disable right click

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การบำบัดอาการเท้าแบนควรทำอย่างไร

อาการของเท้าแบน มีลักษณะเกี่ยวกับสภาพของรูปร่างของเท้าที่มีการทรุดลงของ Arch of the foot ทำให้ส่วนที่อุ้งเท้าสัมผัสกับพื้น พบในสองกลุ่มของช่วงอายุประมาณ อายุน้อย ที่มีอายุประมาณ 30 ปี จะมีสาเหตุมาเกิดจาก Systemic Inflammatory Disease หรือ Repetitive Movement ในนักกีฬา และอีกกลุ่มที่มีอายุประมาณ 55 ปี มีสาเหตุมาจาก Long-slanging micro trauma หรือ Overuse Syndrome
สาเหตุของการเกิดโรค

เกิดจากการบาดเจ็บที่มีการใช้งานเกินกว่าปกติ (Overuse Injury) จากแรงกระทำ แรงกดที่บริเวณการกระทำอย่างต่อเนื่อง ของกล้ามเนื้อ Tibialis Posterior (Repetitive Stress) เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดขบวนการการอักเสบ (Inflammatory Response)
เกิดจากการอักเสบของ Tendon อื่นๆ อย่างเช่น โรค Rheumatoid Arthritis, Ankylosing Spondylitis, Reiter Syndrome และ Psoriasis
ปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงของการเกิดโรค
ภาวะของความอ้วน วัยกลางคน ที่เป็นเพศหญิง เกี่ยวกับความดันเลือดสูง โรคเบาหวาน ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดด้านในร่างกายมากก่อน โรคพันธุกรรม โรคSeronegative Spondyloartropathies เคยได้ Systemic หรือ Local Cotticosteroid
อาการของโรคเท้าแบน

อาการที่ปวดตามบริเวณด้านในของข้อเท้า และ Arch of foot และยังมีอาการปวดบริเวณด้านนอกของข้อเท้าด้วย ซึ่งเกิดจากข้อเท้าเกิดการอักเสบ จะมีอาการบวมด้านในของข้อเท้าตามแนวของเส้นเอ็น ไม่สามารถที่จะยืนหรือการเดินเป็นเวลานานๆได้ เมื่อไปพบแพทย์ จะตรวจร่างกาย เปรียบเทียบเท้าทั้ง 2 ข้าง เสมอ การตรวจดูแรงของกล้ามเนื้อ การตรวจการยืนด้วยปลายเท้า เพื่อจะได้ดูการทำงานของ Tibialis Posterior ถ้าผู้ที่มีอาการของเท้าแบนจะไม่สามารถยืนบนปลายเท้าได้
การรักษาอาการของเท้าแบน
การรักษาด้วยการใช้ยา อย่างเช่น NSAIDs เพื่อเป็นการช่วยให้อาการของเท้าแบนบรรเทาลงและลดอาการปวดได้
การทำกายภาพบำบัด Iontophoresis เป็นการใช้คลื่น Ultrasound เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลดอาการอักเสบได้ Stretching และ Strengthening Exercise ด้วยการทำในบริเวณของเอ็นร้อยหวาย และเส้นเอ็นในบริเวณของข้อเท้า
Orthotic Brace และ Cast
การเลือกสวมใส่รองเท้าที่มีความเหมาะสมกับเท้าที่มีการหนุนที่ฝ่าเท้า (Arch Support)
เมื่อมาพบแพทย์จะได้รับการรักษา ดังนี้
การทำกายภาพบำบัดเพื่อเป็นการลดอาการปวด และการอักเสบของโรคเฉพาะที่ได้ อย่างเช่น การทำอัลตราซาวน์
การปรับรองเท้าให้มีความเหมาะสมกับสภาพของเท้า ด้วยการใช้อุปกรณ์ เสริมเพื่อช่วยให้ส้นเท้าไม่เกิดการอักเสบ ควรใช้วัสดุที่มีความนุ่มและยืดหยุ่น
ถ้าการรักษาทุกอย่างทำให้อาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการที่แย่ลงแพทย์จะพิจารณาถึงการรักษา ด้วยการส่งกล้องผ่าตัดต่อไป
  อ้างอิงข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/292229