disable right click

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

นิ้วโป้งเท้าเก แนวทางการรักษาอาการนิ้วโป้งเท้าเก

แนวทางการรักษาอาการนิ้วโป้งเท้าเก

การรักษาสามารถทำได้ทั้งรักษาที่ต้นเหตุ และการรักษาที่ปลายเหตุ การรักษาที่ต้นเหตุจะสามารถรักษาควบคู่กับปลายเหตุได้ ควรที่จะมีการปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้รู้ถึงข้อดี และข้อเสียของการรักษาแต่ละแบบ
วิธีการรักษาอาการมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ


การรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด สำหรับผู้ที่มีอาการไม่มากนัก ข้อผิดรูปไม่มาก สามารถดึงหรือดันแก้ไขได้ ไม่มีข้อเสื่อม แต่สำหรับผู้ที่มีอาการมาก แต่การผ่าตัดอาจจะเป็นความเสี่ยง จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเพิ่มมากขึ้นได้ การพักฟื้นตัวหลังจากการผ่าตัดนั้น จะต้องใช้เวลานาน จนเป็นผลเสียต่อผู้ที่มีอาการ และที่จะพบอาการมากก็จะเป็นผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้สูงอายุ การรักษา ด้วยวิธีนี้ ก็คือ การทำแผ่นรองในรองเท้าเฉพาะที่ บริเวณเท้าของผู้ที่มีอาการ การใส่รองเท้าที่มีความเหมาะสมกับเท้า และการใส่อุปกรณ์เพื่อช่วยในการประคบข้อนิ้วโป้งเท้า ถือเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ เนื่องจากสามารถสือหาต้นเหตุและความเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะของนิ้วโป้งเท้าเกได้
แผ่นรองเท้าเฉพาะบุคคล (Custom-made Insole) เป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยในการจัดโครงสร้างของเท้าให้มีความเหมาะสมให้กลับมาอยู่ในรูปแนวที่ปกติ เพื่อไม่ให้อุ้งเท้าแบนล้ม ไม่ให้กระดูกของส้นเท้าบิดล้มเข้าทางฝั่งด้านในเท้า หรือเอ็นร้อยหวายบิดโค้งเข้าทางฝั่งด้านในได้ เนื่องจากเป็นความเสี่ยงต่ออาการของนิ้วโป้งเท้าเก

การใส่รองเท้าที่มีความเหมาะสม ก็คือการสวนรองเท้าที่มีขนาดพอดี ไม่คับจนเกินไป หัวของรองเท้ามีความกว้าง (Wide Toe Box) เมื่อเวลาสวมใส่แล้วสามารถขยับนิ้วเท้าได้ ไม่บีบรัดนิ้วเท้ามากไป พื้นรองเท้าจะต้องมีความนุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าที่มีหัวส่วนปลายแหลมและบริเวณส้นเท้าสูงมากกว่าประมาณ 2 นิ้ว
การใส่อุปกรณ์เพื่อช่วยในการประคับประคองนิ้วโป้งเท้า ก็คือ เจลคั่นนิ้วเท้า (Gel Toe Separator) อุปกรณ์กันนิ้วโป้งเบน (Hullux Valgus Splint) จะสามารถช่วยให้อาการนิ้วโป้งเท้าเกไม่เป็นมากกว่าเดิม ทำให้เอ็นรอบข้อของนิ้วโป้งเท้ามีความหย่อน ช่วยบรรเทา ช่วยลดอาการปวดบริเวณโคนนิ้วโป้งเท้าได้ดีอีกด้วย
การบริหารเท้าสำหรับการป้องกันอาการและเป็นช่วยบรรเทาอาการเจ็บบริเวณนิ้วโป้งเท้าเก (Foot Exercise For Prevent and Relief Bunion)
การทำการบริหารเท้าจะสามารถช่วยให้มุมของนิ้วโป้งเท้า ที่เกิดอาการเกได้ช้าลง เพื่อลดอัตราความจำเป็นต่อการผ่าตัดได้ควรทำเป็นประจำทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ หลังจากเวลาที่ถอดรองเท้าแล้ว
การเหยียดนิ้วโป้งเท้า ด้วยการใช้มือดันนิ้วโป้งเท้า ให้อยู่ในแนวตรงเรียงตัวแนวเดียวกับนิ้วอื่นๆ
การเหนียดนิ้วเท้าทั้งหมดที่เกร็งแล้วชี้ไปในทิศทางเดียวกันเป็นเวลาประมาณ 10 วินาที จากนั้นก็สลับด้วยการงอนิ้วเท้าทั้งหมดค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ทำสลับกันไปมา ซ้ำๆหลายๆ ครั้ง
การงอนิ้วเท้าทั้งหมด กดนิ้วเท้าที่งอกับพื้นค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จากนั้นก็ปล่อยยกเท้าขึ้น ทำแบบเดิมซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง
ฝึกการหยิดด้วยนิ้วเท้า ด้วยการใช้นิ้วเท้าหยิบสิ่งของต่างๆ วางลง และหยิบขึ้นมา ทำหลายๆ ครั้งซ้ำๆ ใช้ผ้าพันนิ้วโป้งเท้าให้อยู่ในมุมที่เป็นปกติเหมือนนิ้วอื่นๆ เป็นการปรับตำแหน่งของนิ้วเท้า ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์

การรักษาด้วยการผ่าตัด การรักษาด้วยวิธีนี้ เฉพาะกับผู้ที่มีอาการปวดข้อผิดรูปมาก มีภาวะของกระดูกเสื่อมร่วมด้วย ผู้ที่มีอายุน้อย และมีการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงหลังจากการผ่าตัดแล้ว ผู้ที่มีอายุมากๆ ไม่ควรที่จะรับการผ่าตัด ควรที่จะรักษาแบบการทำกายภาพบำบัดเท้า นิ้วเท้าก่อน จะได้ไม่ต้องมีความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.icfoot.com/index.php?lite=article&qid=42107695