โรคเอ็นร้อยหวายอักเสบ
อาการปวดที่แปลก และน้อยคนจะสนใจ
โรคเอ็นร้อยหวายอักเสบ
หรือในภาษาอังกฤษที่ชื่อ Achilles
tendonitis เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบตรงตำแหน่งเอ็นร้อยหวาย
ส่วนใหญ่เริ่มมาจากการบาดเจ็บเล็กน้อย ที่ต่อเนื่องหรือซ้ำซาก มักจะเกิดกับผู้ที่ชอบออกกำลังกายโดยการวิ่ง
หรือกลุ่มของนักกีฬา อย่างเช่น นักวิ่ง นักฟุตบอล นักบาสเก็ตบอล เป็นต้น
การบาดเจ็บในระยะเริ่มต้น
ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกปวดมากนัก อันเนื่องจากเป็นการฉีกขาด อยู่ในระดับเนื้อเยื่อที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
ที่เรียกว่า microtear แต่ถ้าหากยังคงเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายหักโหมต่อไปอีก
เส้นเอ็นจะฉีกขาดกินวงกว้างเพิ่มมากขึ้นจนรู้สึกปวดได้อย่างชัดเจน เรียกว่า macrotear ในระยะนี้ผู้ป่วยจะรู้สึกปวด ทั้งบวม
แดง ร้อนบริเวณที่บาดเจ็บได้ทันที
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นเอ็นร้อยหวายอักเสบ
1. ปวดที่เอ็นร้อยหวาย
แต่ไม่รักษา ยังคงฝืนวิ่งหรือออกกำลังกายต่อไปจนเส้นเอ็นมีการอักเสบมากขึ้น
2. วิ่งหรือเดินขึ้นลงในทางลาดเป็นประจำ
3.
มีปัญหากล้ามเนื้อน่องตึงตัวมากเกินไป และเมื่อออกไปวิ่ง จะทำให้เอ็นร้อยหวายได้รับความเครียดสูง
มีความตึงตัวมากขึ้นจนได้รับอันตรายได้ ทางที่ดีควรยืดกล้ามเนื้อและวอร์มอัพก่อนทุกครั้งที่ออกกำลังกาย
4.
มีการสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้ามีพื้นส้นที่แข็งเกินไป
ขาดความยืดหยุ่น รองเท้ามีขนาดไม่เหมาะสมกับเท้าตนเอง หรือว่ารองเท้าไม่มีคุณสมบัติช่วยรับและกระจายน้ำหนัก
รวมทั้งการใส่รองเท้าส้นสูงก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากว่า การใส่ส้นสูงเป็นเวลานานจะทำให้เกิดภาวะเอ็นร้อยหวายหดตัวคงค้าง
(tight) เมื่อเอ็นร้อยหวายถูกยืดกระทันหันจากกิจกรรมใดๆ
ก็ทำให้เส้นเอ็นถูกกระชาก ร่วมกับการที่เอ็นมีความยืดหยุ่นที่น้อยลงจึงเกิดการอักเสบได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
5. เล่นกีฬาที่ต้องจะวิ่งและหยุดกระทันหันต่อเนื่องกัน
อย่างเช่น นักเทนนิส ฟุตบอล กีฬาบาส เป็นต้น
6. เท้ามีการผิดรูป
ที่อาจจะเป็นมาแต่กำเนิดหรือเกิดมาจากอุบัติเหตุก็ได้
อาการของเอ็นร้อยหวายอักเสบ
1.
มีการปวดตึงที่เอ็นร้อยหวาย
2.ตรวจคลำพบตุ่มก้อนที่เอ็นร้อยหวาย
อันเกิดจากกล้ามเนื้อน่องและเส้นเอ็นตึงตัวมากเกินไป
3.
หากเมื่อกดลงไปที่เอ็นร้อยหวายจะมีอาการปวดมากขึ้น
4.ให้สังเกตที่ส้นรองเท้า
จะพบว่าที่ส้นรองเท้าจะสึกมากผิดปกติ
5.
เมื่อออกกำลังโดยการวิ่งจะรู้สึกปวดตรงที่เอ็นร้อยหวาย และเมื่อหยุดออกกำลังจะรู้สึกปวดตึงมากขึ้น
การดูแลรักษาด้วยตนเอง
1.หากรู้สึกปวดตามอาการที่กล่าวมาข้างต้น
ให้หยุดพักทันที หากยังฝืนเล่นต่อทั้งที่ยังมีปวดอยู่ จะทำให้เกิดอาการปวดเพิ่มมากขึ้น
2. ยืดกล้ามเนื้อน่องโดยการดันปลายเท้าจนรู้สึกตึงที่น่องค้างไว้ประมาณ
20 วินาที จำนวน 5
เซ็ต
3.ใช้นํ้าแข็งมาประคบบริเวณที่ปวดจนกว่าอาการปวดจะบรรเทาลง
เป็นการลดอาการปวด
แต่ในกรณีที่เป็นเรื้อรังมากกว่า
3 เดือน ควรเข้ารับการรักษากับนักกายภาพบำบัด ทั้งนี้ผู้ที่ใส่รองเท้าส้นสูงก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ด้วยการหันมาใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่มีการกระจายนํ้าหนักได้ดี เพื่อไม่ให้อาการปวดแย่ลงไปมากกว่าเดิม
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
เส้นเอ็นที่มีการอักเสบที่จะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่ากล้ามเนื้ออักเสบ
เพราะเส้นเอ็นจะมีเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงน้อยกว่า เลือดจึงนำสารอาหารที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อมาได้น้อยกว่าเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก https://boringdoc.blogspot.com/2016/02/blog-post_17.html
