โรคเข่าเสื่อมมีผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำอย่างมาก
บางรายส่งผลน้อยคือ เริ่มมีเสียงที่เข่าเวลาเคลื่อนไหว ปวดเข่าเป็นครั้งคราว บริเวณเข่ามีอาการบวมแดง ผู้ที่มักมีอาการเริ่มต้น หรือ ยังไม่คิดว่าตนเองป่วยเป็นโรคดังกล่าว
เพราะปวดแล้วพอพักสักครู่อาการก็หายไป ก็ไม่ค่อยใส่ใจกับตนเองมากนัก เพราะ
คิดว่าไม่ใช่ปัญหา อาจจะคิดไปว่า เดินมากจนเกินไป จนทำให้เมื่อย ทำให้ล้า ปวด
พักก็คงจะดีขึ้น และหายไปเอง
ผู้สูงอายุกับโรคข้อเข่าเสื่อมมักจะมาด้วยกัน
โรคนี้มักมาจากคนวัยสูงอายุ
แต่คำว่าสูงอายุสมัยนี้คงไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนชรา
หรือผู้ที่มีอายุเกกินวัยทำงานเสมอไป ไม่มีอะไรชี้ชัดไปได้ การดูแลตนเอง
เมื่อเราก้าวเข้าสู่วัยทำงาน และวัยกลางคน ควรหันมาสำรวจตนเองได้แล้ว หรือทางที่ดี
เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ยิ่งดี
ยิ่งอายุน้อยยิ่งส่งผลดีกว่าเริ่มมาดูแลกันตั้งแต่อายุมากๆ หนทางแก้ไขก็ยิ่งลดลงและยากขึ้นไปตามวัย
อาการต่อมาของโรคนี้ก็คือ ข้อฝืด ใช้งานไม่ถนัด
บางรายอาจจะถึงข้อติดก็มี
และอาการข้อเข่าผิดรูป ซึ่งเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาการผิดรูปในลักษณะบวมโต
หรือ เข่าโก่งออก ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจน
จนสุดท้ายจะมีอาการของการใช้งานของข้อเข่า การนั่งลุกที่นั่งเตี้ยๆไม่ได้ การขึ้นลงบันได้ ไม่ได้
รวมถึงการเดินก็เดินได้น้อย อาจต้องใช้ไม้ค้ำยัน ช่วย หากเป็นข้างใดข้างหนึ่ง ถ้าเป็นพร้อมกัน 2 ข้าง
อาจต้องใช้รถเข็นนั่งแทนการเดิน
ยุ่งยากกับการใช้ชีวิตประจำวัน และต่อคนใกล้ชิดมากจริงๆ เพราะปัญหาการสะสมของการใช้งานมากเกินไป
หนักเกินไป สม่ำเสมอของข้อเข่า
จนเมื่อถึงวัยหนึ่งข้อเข่าก็จะแสดงอาการให้เห็นจนเด่นชัด
ผู้สูงอายุที่ยังไม่มีอาการ
ยังใช้หัวเข่า ข้อเข่าในการยืน นั่ง ยืน เดิน
ขึ้นบันได
ได้แม้จะช้าไปตามวัยบ้างแต่ยังสามารถดันตัวโดยข้อเข่าได้ด้วยตัวมันเองได้อยู่
เป็นสิ่งที่คนคนนั้นดูแลตนเองได้ดีมากตั้งแต่เล็กจนถึงวัยนี้
ยังสามารถมีข้อเข่าที่แข็งแรงได้ขณะที่คนอื่นในวัยเดียวกันอาจจะไม่สามารถใช้เข่าได้ดี
แบบนี้ได้ผู้เขียนเคยพบ หญิงชราวัยน่าจะ 80 หรือใกล้เคียง อยู่บ้านนอก
ต่างจังหวัด เขายังสามารถเดินไปได้ ไม่มีไม้เท้า สามารถนั่งได้
ใช้ชีวิตประจำวันช่วยเหลือตนเองได้เหมือนปกติ ยกเว้นเวลานั่งพับเพียบ
ลุกขึ้นยืนต้องใช้เคนช่วยประคอง เพราะข้อเข่าก็คงมีเรี่ยวแรง
และกำลังตนเองจากอายุเริ่มเยอะก็ทำให้เรี่ยวแรงลดลงตามวัย แต่ยอมรับว่า
คุณยายท่านนี้แข็งแรง และยังมีกระดูกที่ดีเยี่ยมมากๆ
แสดงว่าท่านต้องดูแลตนเองดีมาตลอดชีวิตท่านอย่างแน่นอน ลูก
หลานท่านก็ไม่ต้องมาเป็นภาระคอยดูแลท่านใดใดเลย ท่านมีชีวิตที่ดีมากๆ
ตัวอย่างดีดีแบบนี้ก็ยังพบอยู่กับผู้สูงอายุที่อยู่ตามวิถีชาวบ้าน
ตามชนบท ตามท้องไร้ท้องนา ได้ออกกำลังกาย ได้เดินเหิน ได้สูดอากาศดีดี ตลอดเวลา หากตัวเราเองไม่ละเลยที่จะใส่ใจตัวเรา
แค่เรารู้ขอบเขตตัวเราว่า เราเองนั้นมีขอบเขตแค่ไหน และเมื่อเรารู้ เราทำ
เราจะรอดจากโรคร้ายนั้นได้เองอย่างแน่นอนที่สุด
ที่มา : https://www.bumrungrad.com/วดโอสาระความรเพอสขภาพ/วดโอสาระความรเพอสขภาพ/โรคขอเขาเสอม (เป็นคลิป)