โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain’s Disease)
เป็นโรคที่พบบ่อย ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการปวดตรงบริเวณข้อมือ เวลาทำงาน และมักปวดเป็นเวลานาน เป็นเดือนๆ ไม่หาย อาการปวดที่พบ พบว่า เมื่อใดมีการใช้นิ้วหัวแม่มือ หรือการทำงานใดที่ใช้นิ้วหัวแม่มือในการทำงาน ที่หยิบจับหรือกระดกข้อมือต่างๆ ก็จะทำให้ปวดมากขึ้น บางครั้ง เช่น เมื่อหยิบจับของก็จะตก เส้นตึง หรือปวดข้อมือ
การตรวจและวินิจฉัยของแพทย์ คือ แพทย์จะให้ผู้ป่วยกำนิ้วหัวแม่มือและให้หักข้อมือลงทางด้านนิ้วก้อย ถ้าหากทำแล้วผู้ป่วยมีความรู้สึกปวดเจ็บบริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือ แสดงว่าผู้ป่วยมีภาวะโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ เรียกการตรวจลักษณะนี้ว่า “Finkelstein’s test”
ผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ มีดังนี้
ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานบ้าน หรือผู้ที่มีการใช้มือบ่อยๆมากๆ เช่น งานที่เกี่ยวกับการพิมพ์คอมพิวเตอร์ หรือเมาส์เป็นเวลานานๆ แม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด หรือนักกีฬาประเภทวอลเลย์บอล ปิงปอง แบดมินตัน เป็นต้น
ลักษณะของปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ จะมีเอ็นอยู่ 2 เส้น เอ็นเส้นหนึ่งจะมีหน้าที่ เหยียดนิ้วหัวแม่มือ ส่วนเอ็นอีกเส้นจะกางนิ้วหัวแม่มือ อยู่คู่กันบริเวณปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ โดยที่เมื่อใดที่มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริเวณนี้มากๆหรือบ่อย ก็จะทำให้เอ็นข้อมือบริเวณนี้เกิดการอักเสบ จนรู้สึกเจ็บปวดตามมาได้
วิธีการรักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ มีดังนี้
1. ลดการใช้มือให้น้อยลง หากรู้สึกปวด แต่ถ้าหากจำเป็นต้องทำงานยาวนาน ควรที่จะพักมือเป็นระยะๆ ตัวอย่างเช่น หากทำงานใช้มือ 45 นาที แล้ว ก็ควรที่จะพักมือ 10 นาที เป็นต้น
2. แช่น้ำอุ่น หรือประคบร้อน ก็จะทำให้ปวดน้อยลง เพราะเลือดไปไหลเวียนได้ดีขึ้น
3. ถ้าหากปวดมากอาจใช้ผ้ายืดพันบริเวณข้อมือ หรือใส่อุปกรณ์ที่ช่วยพยุงนิ้วหัวแม่มือ
4. ใช้ยาทา โดยแพทย์จะให้ยาทาคลายกล้ามเนื้อ
ทั้ง 3 วิธีที่กล่าวข้างต้นสำหรับผู้ที่มีอาการน้อยๆจะดีขึ้น หากผู้ที่เป็นรุนแรง ยาวนาน เรื้อรัง คือ
5. รับประทานยาลดการอักเสบกล้ามเนื้อ
6. การฉีดยาแก้อักเสบตรงบริเวณข้อมือ
หากการรักษาด้วยการฉีดยา 3 ครั้ง แล้ว ยังกลับมาเป็นอีก จำเป็นที่แพทย์ต้องใช้วีธีสุดท้าย คือ
7. การผ่าตัด จะเริ่มจากการฉีดยาชาตรงบริเวณข้อมือรอให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 10-15 นาที เปิดแผลไปบริเวณผิวหนัง แล้วไปเลาะที่ปลอกหุ้มเอ็นกล้ามเนื้อออก เพื่อไม่ให้ไปรัดเอ็นข้อมือ แต่วิธีการผ่าตัดก็ต้องระวังเรื่องของเส้นประสาท ถ้าเส้นประสาทเสีย จะทำให้นิ้วหัวแม่มือ เกิดอาการชาได้ หลังการผ่าตัดจะปิดผ้าไว้ ผู้ป่วยที่ผ่าตัดสามารถใช้ข้อมือได้เต็มที่ แต่ห้ามให้ข้อมือถูกน้ำ หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ก็จะตัดไหม เมื่อตัดไหมแล้วแผลก็ถูกน้ำได้ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะหายจากอาการเจ็บข้อมือ
ขอบคุณข้อมูลจาก youtube.com/watch?v=1JPUQMjwoEM
และ thaihealth.or.th/Content/26962-%
ปวดข้อมือ
สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line
