disable right click

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์


การป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นโรคที่มักพบอาการอักเสบ หรือว่ามีอาการบวมตามบริเวณข้อ ในส่วนต่างๆทั่วร่างกาย มีการงอกของเยื่อบุตามข้อต่างๆ ซึ่งเยื่อบุจะขยายลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของข้อ และอวัยวะอื่นๆด้วย อย่างเช่น ตา กล้ามเนื้อ ระบบประสาท และมักจะเป็นเรื้อรังนานเกิน 6 อาทิตย์ขึ้นไป มีซึ่งโดยทั่วไปโรคนี้เกิดได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 5 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์นี้ยังไม่เป็นที่ทราบอย่างแน่ชัด

อาการเริ่มแรกของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
§  ผู้ป่วยจะมีอาการบวม หรืออักเสบตามข้อ หากเรากดลงไปบริเวณนั้นจะมีความรู้สึกเจ็บปวด และทรมานมาก ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา นานวันเข้าข้อเหล่านี้จะเริ่มฝืดและจะเคลื่อนไหวลำบาก
§  ในช่วงเช้าหลังตื่นนอน ผู้ป่วยมักขยับข้อไม่ค่อยได้ เพราะว่าระหว่างที่นอนข้อไม่ได้ขยับ ทำให้เกิดการล็อกขึ้น
§  ผู้ป่วยอาการเบื่ออาหาร หรือไข้ขึ้น และปวดเมื่อยเนื้อตัวร่วมด้วย กระทั่งข้อต่างๆ เริ่มมีลักษณะผิดรูปและพิการในที่สุด

วิธีการป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
1. ให้ทำกายบริหารตามข้อต่างๆ โดยการใช้ฟองน้ำหรือลูกบอลยาง มาบีบให้กล้ามเนื้อนั้นได้ยืดและคลายตัว
2. ในขณะเวลาถือของควรใช้มือทั้งสองข้างในการหยิบจับ ไม่ใช้ข้อใดหรือมือใดมากจนเกินไป
3. ควรเปลี่ยนก๊อกน้ำภายในบ้านให้เป็นแบบคันโยกแทนก๊อกน้ำแบบหมุนเปิด
4. ควรเปลี่ยนประตูบ้านเป็นแบบบานเลื่อนแทนลูกบิด
5. ให้ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรงสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้
6. ควรงดดื่มเหล้า หรือการสูบบุหรี่
7
. ให้แช่มือหรือเท้าในน้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
8
. ควรขยับข้อตามร่างกายบ่อยๆ อย่าหยุดนิ่งหรืออยู่กับที่นานจนเกินไป
9
. ควรรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และครบโภชนาการทั้ง 5 หมู่
10
. ควรรับประทานปลาต่างๆ เพราะว่าในปลามีโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบได้
11.ควรหลีกเลี่ยงหรือลดการรับประทานเนื้อสัตว์ต่างๆ
12. ควรรับประทานเต้าหู้ หรือถั่ว ต่างๆและผลิตภัณฑ์ที่มาจากถั่วเหลือง
13. ควรรับประทานผักต่างๆ ในจำพวกผักคะน้า หรือผักโขม เพราะว่ามีสารโฟเลตช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงได้
14. ควรหาผลไม้ที่มีวิตามซีสูงมาทาน อย่างเช่น ส้ม มะนาว หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย
15. ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณน้ำตาล  ไขมัน และแป้ง
16. ไม่ควรทานเนื้อสัตว์ที่ติดมัน หรืออาหารขยะซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวสูง
17. ควรเลือกน้ำมันประกอบอาหารที่มีโอเมก้า 6 อย่างเช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันจมูกข้าวสาลี หรือว่าน้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
18. เปลี่ยนจากการรับประทานข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้อง หรือข้าวไรซ์เบอรี่แทน

19. ดื่มน้ำเปล่าให้มาก และพักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งไปตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก www.eldercareinthai.com/2015/09/12/โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์/

สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line 
เพิ่มเพื่อน

ปวดข้อ