disable right click

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โรคกล้ามเนื้อเสื่อมตอนที่ 2






การรักษาโรคกล้ามเนื้อเสื่อม

การรักษาแพทย์ทำปัจจุบัน คือ การรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น  มีการทำกายภาพบำบัด ทำการฝึกการหายใจ มีการป้องกันข้อยึดติด รักษาความผิดปกติทางหัวใจ ป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจนอกจากนี้แล้วแพทย์จะทำการรักษาด้วยการให้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ที่ได้ผลบ้างเล็กน้อย และมีการรักษาทางด้านพันธุกรรมที่ปัจจุบันยังไม่ประสบผลสำเร็จ

ภาวะแทรกซ้อนของโรคกล้ามเนื้อเสื่อม

ที่พบได้บ่อย คือ เด็กจะหายใจไม่สะดวก เพราะมีกล้ามเนื้อทางการหายใจอ่อนแรง มีภาวะกระดูกสันหลังผิดรูปหรือกระดูกสันหลังคด มีภาวะข้อยึดติด มีการติดเชื้อทางเดินหายใจซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิต

การพยากรณ์โรคกล้ามเนื้อเสื่อม

โรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หาย และอาการผิดปกติต่างๆที่เลวลงลงเรื่อยๆจะเร็วหรือช้านั้นขึ้นกับชนิดความผิดปกติของพันธุกรรม โดยทั่วไปแล้ว พบว่าเมื่อเด็กมีอายุได้ประมาณ 12 ปี เด็กก็จะเดินไม่ได้ ยังไม่มีการรักษาที่ได้ผล เพราะฉะนั้นเด็กที่ป่วยประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ จะเลียชีวิตเมื่อมีอายุประมาณ 20 ปี
เพราะว่ามีกล้ามเนื้อหัวใจ และกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจมีความอ่อนแรงด้วย จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อโรคของระบบหายใจ และภาวะหัวใจวายได้ ทำให้เลียชีวิตโดยเฉียบพลัน

การดูแลตนเองของผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อม

        การดูแลที่สำคัญของเด็กที่เป็นโรคนี้ คือ การปฏิบัติตามแพทย์ พยาบาล และนักกายภาพบำบัด
เด็กอาจจะต้องเข้าโรงเรียนสำหรับเด็กที่พิการทางร่างกายโดยเฉพาะ ส่วนมากจะต้องนั่งรถเข็นเมื่ออายุ 12 ปี ระหว่างที่เด็กยังเดินได้ ผู้ปกครองควรกระตุ้นให้เด็กมีการเคลื่อนไหวร่างกายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เด็กรักษาการเดินไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องระวังอย่าให้เด็กออกกำลังมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้มีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็วได้ ผู้ดูแลอาจให้ลูกใช้ไม้คํ้ายันช่วย จะทำให้เด็กรักษาความสามารถในการเดินไว้ได้นานขึ้น การนอนแต่บนเตียงนั้น จะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว การรักษาด้วยกายภาพบำบัดนั้น จะประคองความพิการไม่ให้เกิดมากขึ้นได้
ผู้ดูแลควรตรวจเช็คสุขภาพเด็กอยู่เป็นประจำ เพราะต้องประเมินอาการผิดปกติทางหัวใจ  การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อที่จะลดโอกาสการติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบทางเดินหายใจ

เมื่อเด็กมีไข้  มีอาการเลวลง มีอาการผิดปกติไปจากเดิม  หรือเมื่อผู้ปกครองมีความกังวลในอาการของเด็กควรพาไปพบแพทย์หรือไปโรงพยาบาลก่อนนัด 

การป้องกันโรคกล้ามเนื้อเสื่อม

        ไม่สามารถป้องกันโรคนี้ในขณะนี้ แต่แพทย์สามารถวินิจฉัยก่อนคลอดได้ ด้วยการตรวจน้ำคร่ำขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ ในครอบครัวที่มีประวัติคนเป็นโรคนี้ในครอบครัว ในระยะเดือนแรกๆของการตั้งครรภ์ จะทำการเจาะเอาน้ำคร่ำออกมาตรวจหาเพศของบุตรในครรภ์ ซึ่งถ้าหากพบว่าเป็นบุตรชาย ก็จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ถึง 50%  โรคกล้ามเนื้อเสื่อมเกือบทั้งหมดนั้น มักจะเกิดเฉพาะกับเด็กผู้ชาย ซึ่งมีแม่เป็นพาหะโรค ดังนั้น ผู้หญิงที่คิดจะแต่งงานหรือมีบุตร หากว่ามีสมาชิกในครอบครัวเคยป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อมนี้ ควรที่จะวางแผนครอบครัวโดยปรึกษาแพทย์เสียก่อน เพราะว่าโรคนี้ มีโอกาสถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แก่ลูกชายถึงประมาณ 50% ส่วนลูกสาวนั้นประมาณ 50% เช่นกันที่อาจจะเป็นพาหะโรค ซึ่งสามารถถ่ายทอดโรคนี้ให้กับลูกต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกหญิงหรือลูกชาย

ขอบคุณข้อมูลจาก http://haamor.com/th/โรคกล้ามเนื้อเสื่อม/

กายภาพบำบัด

สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line 
เพิ่มเพื่อน