ไม่อยากมีอาการปวดคอป้องกันได้ไม่สายเกินไป
คอเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญอย่างมากและคอทำหน้าที่ในกานแบกรับน้ำหนักที่มากของศรีษะตลอดเวลาทั้งยามหลับและตื่น
ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆทั้งเอี้ยวคอ ก้มๆ เงยๆ ทำให้คอต้องทำงานหนักตลอดเวลา โดยเฉพาะวัยทำงานไม่ได้มีเวลาในการพักผ่อนมากนัก
ยังคงทำงานที่หนักทั้งวัน เช่น การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน
การนั้นทำงานบนโต๊ะทั้งวัน เป็นต้นการทำงานที่หนักจะนำมาซึ่งความเครียด
รวมไปจนถึงพฤติกรรมต่างๆ อย่าง การนอนหมอนที่สูงเกินไป การนอนคว่ำหน้าเป็นประจำ
เกร็งไหล่อยู่เป็นประจำ ใช้คอหนีบโทรศัพท์ เป็นต้น
พฤติกรรมเหล่านั้นล้วนแต่ส่งผลให้เกิดอาการปวดคอได้
หรือกรณีกล้ามเนื้อต้นคอเกิดการอักเสบ ก็ส่งผลทำให้มีอาการปวดคอ ได้เช่นกัน
อาการปวดคอมีความรุนแรงที่แตกต่างกันสามารถแยกออกได้ดังนี้
อาการปวดคอมีความรุนแรงที่แตกต่างกันสามารถแยกออกได้ดังนี้
1. อาการปวด
- มีอาการปวดร้าวเฉพาะที่ไม่มีการปวดบริเวณอื่นใดเรียกว่าอาการปวดตามแกน
- มีอาการปวดคอตรงที่เป็นสาเหตุของอาการปวดและมีอาการปวดร่วมกับบริเวณใกล้เคียงที่ไม่ใช่สาเหตุของอาการปวดเรียกว่าการปวดแบบส่งต่อ
- มีการปวดร้าวไปตามเส้นประสาทรากประสาท ซึ่งเกิดจากการที่รากประสาทถูกกดทับทำให้เกิดการเจ็บปวดเกิดขึ้น
2. รากประสาทและไขกระดูกสันหลังถูกเบียดทับ กระดูกสันหลังผิดรูปหรือไม่มั่นคงเป็นต้น
การดูแลรักษาอาการปวดคอสามารถแก้ไขและป้องกันได้เบื้องต้นดังนี้
1. เมื่อพบอาการปวดคอต้องพบแพทย์ทานยาแก้ปวดแก้อักเสบ คลายกล้ามเนื้อที่ไม่มีสเตรอยด์ เพื่อช่วยให้อาการปวดบรรเทาลงไป
2. ลดกิจกรรมหรือพฤติกรรมต่างๆที่ทำให้เกิดอาการปวดคอ เช่นการนั่งทำงานผิดท่า นอนหมอนที่สูงเกินไป การสะบัดผม เป็นประจำ หากผู้ปวดลดกิจกรรมเหล่านี้ลงได้อาการเจ็บปวดก็จะทุเลาลง 2-3 สัปดาห์
3. การใส่ปอกคอเพื่อเป็นการจำกัดการเคลื่อนไหวคอของผู้ป่วย
แหล่งที่มา : http://www.sukumvithospital.com/content.php?id=46
ปวดคอ
สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line
