มารู้วิธีการใช้ยาสามัญประจำบ้านให้ถูกต้อง
การใช้ยาสามัญประจำบ้านให้ถูกต้องนั้น
ผู้ที่จะใช้ยาควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้เพื่อให้ได้ผลในการรักษาเต็มที่และเกิดข้อเสียจากการใช้ยาให้น้อยที่สุด
โดยมีหลักว่า จะต้องใช้ยาให้ถูกกับโรค ถูกกับบุคคล เช่นวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่
หญิงตั้งครรภ์ และใช้ยาให้ถูกเวลา ถูกวิธี
ถูกขนาด ดังนี้
1.
ใช้ยาให้ถูกโรค ถูกขนาน ก่อนใช้ยาบำบัด หรือเพื่อบรรเทาอาการที่เป็น
ควรศึกษาก่อนว่า อาการนั้นเกิดจากสาเหตุใด
และควรใช้ยาขนานใดให้ตรงกับการแก้ปัญหาหรือสาเหตุนั้น เช่น ปวดท้อง ให้สังเกตว่าเป็นท้องผูก หรือท้องเสีย
หรืออาหารไม่ย่อย การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องจากสาเหตุต่างๆ
จะมีตัวยาไม่เหมือนกัน
2.
ใช้ยาให้ถูกกับบุคคล ร่างกายจะตอบสนองต่อยาในแต่ละบุคคลจะต่างกัน
โดยเฉพาะต่างเพศหรือต่างวัย เด็กและคนชราจะตอบสนองต่อยาไวกว่าวัยกลางคน บางชนิดใช้กับสตรี
บางชนิดสตรีตั้งครรภ์และเด็กห้ามใช้ เช่น เตตราชัยคลีน เป็นต้น
ดังนั้นไม่ควรนำยาของบุคคลหนึ่งมาใช้กับอีกบุคคลหนึ่งที่ต่างเพศต่างวัยกัน ควรรับประทานตามแพทย์แนะนำ
3.
ใช้ให้ถูกขนาด ให้ตรงกับขนาดที่ระบุเท่านั้น
สำหรับการใช้ยาต้านจุลชีพ ไม่ว่าจะเป็นยาภายในหรือยาภายนอก
จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจนกว่ายานั้นจะหมด ถ้าลืมรับประทานยา เมื่อนึกได้ให้รีบทานยาทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา
สำหรับยาน้ำ ควรใช้ช้อนตวงที่ให้มากับยาเท่านั้น
- ยาก่อนอาหารต้องรับประทานยานั้นก่อนอาหาร 30
นาที
– 1 ชั่วโมง เพราะตอนท้องว่างจะช่วยในการดูดซึมยาผ่านผนังกระเพาะอาหารเข้าสู่เส้นเลือดได้ดี
นอกจากนี้ยางบางประเภท
เช่นยาปฏิชีวนะจะถูกทำลายได้ง่ายโดยน้ำย่อยอาหารที่หลั่งออกมาโดยอัตโนมัติ
เมื่อเริ่มรับประทานอาหารเป็นต้น
- ยาหลังอาหาร จะรับประทานยานั้นภายหลังการรับประทานอาหารไปแล้วทันที
หรือ ผ่านไป 15 นาทีก็ได้
แต่ถ้ามีการระบุว่ารับประทานทันที ก็ต้องรับประทานทันที เพราะยานั้นมีฤทธิ์กันกร่อนหนังกระเพาะ
ซึ่งจำเป็นต้องใช้อาหารเป็นเกราะกำบังไว้มิให้ยาสัมผัสผนังโดยตรง
- ยาหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง เช่นยาเคลือบผนังกระเพาะอาหารหรือยาลดกรด
เพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ควรรับประทานหลังอาหารไปแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือก่อนอาหาร
1 ชั่วโมง เพื่อให้ยาทำตามหน้าที่ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ให้มีอาหารเป็นเครื่องกีดขวาง
- ยาระบายแก้ท้องผูก
ยานั้นจะต้องออกฤทธิ์หลังจากรับประทานเข้าไปแล้วประมาณ 6-8 ชั่วโมง
ดังนั้นหากต้องการให้เกิดการถ่ายในตอนเช้า จะต้องรับประทานยาก่อนนอน
- การรับประทานยาแก้อาเจียน แก้ปวดท้อง
ให้รับประทานก่อนอาหารประมาณ 20-30 นาที เพื่อมิให้เกิดอาการ เมื่อเริ่มทานอาหารเข้าไป
- ยาขับปัสสาวะ มักใช้กับผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
เพื่อลดปริมาณน้ำในร่างกาย จะมีผลให้ความดันโลหิตลดลง นิยมทานยาในมื้อเช้าหรือกลางวันเท่านั้น
เนื่องจากทานในมื้อเย็นจะทำให้คนไข้ต้องลุกมากลางดึกเพื่อปัสสาวะ
จากหนังสือ คู่มือการตรวจโรคด้วยตนเองเบื้องต้น
สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line
