disable right click

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การรักษาโรคภูมิแพ้ในจมูกด้วยเลเซอร์



การรักษาโรคภูมิแพ้ในจมูกด้วยเลเซอร์

โรคภูมิแพ้ในจมูก (Allergic Rhinitis) เกิดจากร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ทางการหายใจ ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ พบว่าถ้าหากพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็จะมีโอกาสที่จะเป็นถึงร้อยละ 75 เมื่อผู้ป่วยได้หายใจเอาสารก่อภูมิแพ้เข้าไป ภายในจมูกจะมีเยื่อบุจมูกที่เป็นก้อนเนื้อมีสีชมพู(Turbinate) เป็นด่านแรกที่จะแสดงปฏิกิริยาตอบสนองกับ สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งผู้ป่วยจะไวเกินกว่าบุคคลปกติทั่วไป อาทิเช่น อาหาร ไรฝุ่น ซากแมลงสาบ ขนสัตว์  ละอองเกสรดอกไม้ และเชื้อราในอากาศ จะไปกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารเคมีออกมาเกิดอาการ คัดจมูก มีน้ำมูกไหล จามไอ บางรายอาจหอบหืดด้วย

ศาสตราจารย์นายแพทย์สมยศ คุณจักร ให้ข้อมูลว่า วิธีสังเกต โรคภูมิแพ้ ผู้ป่วยต้องสังเกตตนเองก่อนว่า แพ้สิ่งใดบ้าง  หากผู้ป่วยไม่มั่นใจว่าแพ้อะไร แพทย์จะสุ่มตัวอย่างสารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่พบทั่วไป โดยพิจารณามาจากกรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน จนสรุปได้ว่าผู้ป่วยแพ้อะไร  พบว่า คนไทยมีการแพ้นุ่นกว่า 30 % เป็นโรคภูมิแพ้จากพันธุกรรม ร้อยละ 20 หากเมื่อพบว่าแพ้ชนิดใด  แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการแพ้นั้น

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจทำให้อาการภูมิแพ้ในจมูกมีความรุนแรงขึ้น
1. โรคไซนัสอักเสบ
2. การติดเชื้อบริเวณโพรงจมูก
3. เป็นหูน้ำหนวก

การรักษาภูมิแพ้ด้วยเลเซอร์

ในปัจจุบันได้มีการรักษาภูมิแพ้ในจมูกด้วยการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความจำเพาะ  ทำลายตัวรับสัญญาณภูมิแพ้ที่บนเยื่อบุโพรงจมูกที่ทำงานไวกว่าปกติ ให้อยู่ในระดับปกติ โดยที่ยิงเลเซอร์ไปยังจุดสั่งการ ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ รวมทั้งแสงเลเซอร์จะช่วยลดขนาด และจำนวนเส้นเลือดที่อยู่ใต้เยื่อบุโพรงจมูกด้วย ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าหายใจโล่งขึ้น มีน้ำมูกน้อยลง การใช้แสงเลเซอร์ในการรักษาโรคภูมิแพ้ให้ประสิทธิภาพดีเทียบเท่าการฉีดยา 3-5ปี ซึ่งผู้ป่วยสามารถเลือกรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ในจมูกเพียง 1 ข้าง หรือ 2 ข้างก็ได้ พบว่าการยิงเลเซอร์เพียง 1 ข้างก็เห็นผลดีขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ แต่หากผู้ป่วยมีความประสงค์จะยิงเลเซอร์ทั้งสองข้างเลยก็ได้ เพราะจะได้ผลยิ่งขึ้นเป็น 80 เปอร์เซ็นต์

ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีเป็นต้นไป สามารถรักษาภูมิแพ้ด้วยเลเซอร์ได้  แต่ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ปกครองและผู้ป่วยรายนั้นด้วย หลังการรักษาจะสามารถควบคุมอาการได้ประมาณ 5-10 ปี ทั้งนี้พบว่าผู้ป่วยที่หอบหืดมีอาการลดลงอย่างเห็นได้ชัด

การรักษาภูมิแพ้ด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัย และ ใช้เวลาน้อย หลังรับการรักษาผู้ป่วยจะมีสะเก็ดแผล และมีเยื่อบุโพรงจมูกบวม ประมาณ 1-2 สัปดาห์  ในช่วงนี้ผู้ป่วยบางรายจะรู้สึกว่าอาการกำเริบขึ้นได้ แต่หลังรักษาประมาณ 2 อาทิตย์อาการต่างๆจะดีขึ้น สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติหลังจากรักษาด้วยเลเซอร์ ก็คือ การว่ายน้ำ การแคะจมูก การสั่งน้ำมูกแรงๆ จะทำให้แผลหายช้า

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ ก็ต้องดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เพราะภูมิแพ้ทำให้หายขาดไม่ได้ เพียงแต่สามารถทำให้ปฏิกิริยาในการโต้ตอบต่ออาการแพ้ลดน้อยลงได้เท่านั้น  วิธีที่ดีที่สุด คือ การป้องกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก www.laser-surgery-bangkok.com
/
สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line 
เพิ่มเพื่อน