รู้ไหมว่าใบหน้าเราก็เป็นอัมพาตได้
ใบหน้าของเราแม้ว่าจะไม่ใช่ส่วนที่ขยับไปมาได้เหมือนแขนขาหรือส่วนอื่น ๆ ของเรากายแต่มันก็เป็นอัมพาตได้เหมือนกันนะ และมันสามารถเป็นได้กับทุกคนไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย วันนี้เรามาดูกันว่าทำไมหน้าของเราถึงเป็นอัมพาตได้แล้วจะมีอาการเป็นอย่างไร พร้อมทั้งวิธีการป้องกันและรักษา
สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าเป็นอัมพาต
หากจะถามหาสาเหตุที่แน่นอนก็คงยังไม่ทราบแน่ชัดแต่ว่ากันว่าอาการอัมพาตใบหน้านั้นมักจะเกิดมากจากการที่เรามีการติดเชื้อไวรัสบางชนิด หรือกับคนที่เป็นโรคเริม ตรงเส้นประสาทใบหน้าทำให้ใบหน้านั้นไม่สามารถที่จะควบคุมกล้ามเนื้อบางส่วนของใบหน้าได้ แต่ก็เป็นชั่วคราวเท่านั้น บางครั้งอาจจะเป็นอัมพาตตรงใบหน้าแค่ครึ่งเดียว ปากเบี้ยว หลับตาได้ไม่สนิท และอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับใบหน้าแต่ว่ามันก็ไม่ใช่โรคอัมพาตครึ่งซีกมันคนละอาการกัน สำหรับโรคนี้จะเป็นแค่ใบหน้าเท่านั้น
อาการของผู้ที่เป็นอัมพาตใบหน้า
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นอัมพาตทางใบหน้านั้นมักจะมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้นและมักจะเกิดในตอนเช้าด้วย เส้นประสาทเส้นที่ 7 ของใบหน้านั้นควบคุมไม่ได้ และอาการที่เรามักพบกับผู้ป่วยโรคนี้ก็คือ
• ปากบิดเบี๊ยวเวลาที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า
• กลืนน้ำลายแล้วน้ำลายหกลงจากปากด้านที่เป็นอัมพาต
• ลิ้นชาไม่สามารถรับความรู้สึกได้
• หลับตาได้ไม่สนิทหรือหลับสนิทได้แค่ข้างเดียว
• หูอื้อ
• น้ำตาไหลเอง
• ฯลฯ
บางคนก็อาจจะมีอาการอย่างอื่นมากกว่านี้ สำหรับผู้ที่เป็นอัมพาตใบหน้า อาจจะเป็นทั้งหน้าหรือเป็นแค่ครึ่งเดียว ต่อไปมาหาวิธีการรักษากันดีกว่า
วิธีการรักษาอาการอัมพาตใบหน้า
• รักษาโดยการใช้ยา สำหรับคนที่พึ่งรู้ตัวว่าเป็นอัมพาตครึ่งหน้าหรือทั้งหน้าใหม่ ๆ ควรไปพบแพทย์และหายามารับประทานเพื่อทำการรักษา อาจจะหายได้หากพึ่งเป็น แต่ถ้าปล่อยเอาไว้นานมากกว่า 1 สัปดาห์ยาอาจจะเอาไม่อยู่แล้วคงต้องหาวิธีอื่นรักษาเพิ่มเติมอีก
• ทำกายภาพบำบัด วิธีนี้ก็จะต้องได้รับการแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเหมือนกัน เพราะการเป็นอัมพาตใบหน้าวิธีการรักษาจะไม่เหมือนกับการทำกายภาพในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย บางครั้งก็อาจจะต้องใช้พลังไฟฟ้าเข้ามาช่วยกระตุ้นเพื่อปลุกใบหน้ากลับคืนมา
• รักษาโดยการผ่าตัด เป็นวิธีการสุดท้ายแล้วสำหรับผู้ที่เป็นอัมพาตใบหน้าแบบหนักมาก และไม่สามารถรักษาในแบบอื่นได้แล้วแพทย์จะทำการวินิจฉัยเองว่าจะต้องผ่าตัดหรือไม่
สำหรับใครที่กำลังเป็นอยู่มันไม่ใช่เรื่องหน้าอายเลย ถ้าหากต้องการจะหายดีกลับมาเป็นปกติได้โดยเร็วจะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อจะได้หาทางรักษาต่อไป หากปล่อยเอาไว้นาน ๆ การรักษาก็จะยิ่งยากขึ้น และทำให้หายช้าลงอีกด้วย
ที่มา http://www.pt.mahidol.ac.th/knowledge/?p=131
อัมพาต
สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line
