disable right click

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558



🌹🌹 มุมมองใหม่ ของอาการปวดหลัง 🌹🌹
              อาการปวดหลังนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยไม่มีการเจาะจงเพศ หรืออายุแต่อย่างใด แม้แต่เด็กที่มีอายุเพียงแค่ 1-2 ปีก็สามารถมีอาการปวดหลังได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หลายคนมักคิดไปเองว่าการรักษาอาการปวดหลังนั้นจำเป็นจะต้องทำการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังและต้องรักษาด้วยการผ่าตัดนั้นมีเพียงแค่ 20% เท่านั้น ส่วนอีก 80% สามารถรักษาให้หายได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีหลายประเด็นที่คนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการปวดหลัง วันนี้เราจะมาเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับอาการปวดหลังเพื่อจะได้สามารถหาทางป้องกันและรับมือได้เมื่อมีอาการดังกล่าว

              สำหรับกระดูกสันหลังนั้นเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย ซึ่งทำหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักตัว โดยจะแบ่งออกเป็นกระดูกส่วนคอ ส่วนอก และส่วนเอว กระดูกสันหลังแต่ละปล้องนั้นจะประกอบด้วยกระดูกข้อต่อสองชิ้น และมีหมอนรองกระดูกสั้นหลังคั่นระหว่างกระดูกแต่ละปล้อง โดยอาการปวดหลังส่วนใหญ่ของคนเรานั้นมักจะเกิดขึ้นที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวที่ประกอบไปด้วยกระดูกทั้งหมด 5 ปล้องด้วยกัน อีกปัญหาหนึ่งที่มักจะพบบ่อยครั้งก็คือ หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ซึ่งมักเกิดขึ้นที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวปล้องที่ 4-5 ของกระดูกสันหลังส่วนเอว

              หากเราพูดถึง หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท แล้วละก็อาจทำให้ใครหลายคนมีความรู้สึกกลัว หรือเป็นกังวลว่าจะต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด เพราะอาจเคยได้ยินมาว่าอาจทำให้เกิดเป็นอัมพาต แท้จริงแล้วอาการรุนแรงที่เกิดจากการผ่าตัดกระดูกสันหลังดังกล่าวมีเพียงแค่การกระดกปลายเท้าไม่ขึ้น โดยจะมีอาการชาและอ่อนแรงปลายเท้า เพราะการกระดกปลายเท้านั้นได้รับการควบคุมโดยเส้นประสาทสมองเส้นที่ 4-5 ในขณะที่เส้นประสาทไขสันหลังที่ต่อจากสมองนั้นจะสิ้นสุดที่กระดูกสันหลังปล้องที่ 1-2 เท่านั้น จึงไม่สามารถทำให้เกิดอาการอัมพาตได้

              อาการหลักของหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทนั้นมีเพียง 3 อาการเท่านั้น คือ เกิดอาการปวดหลัง ชา อ่อนแรง โดยอาการปวดดังกล่าวจะมีลักษณะปวดแบบแปล๊บ ๆ ร้าวลงไปที่ก้น และขา ซึ่งอาการดังกล่าวนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการตรวจวินิจฉัยของแพทย์หากผู้ป่วยสามารถบอกตำแหน่งของอาการปวดได้อย่างชัดเจน ก็จะส่งผลให้สามารถตรวจทราบได้ว่าอาการผิดปกติของกระดูกสันหลังเกิดขึ้นบริเวณใด ทำให้ง่ายต่อการวินิจฉัยในการตรวจรักษา ตัวอย่างเช่น หากมีอาการปวดร้าวมาที่บริเวณต้นขา แพทย์อาจสงสัยความผิดปกติที่กระดูกสันหลังปล้องที่ 3 – 4 หากมีอาการปวดร้าวไปถึงเท้า หรือบริเวณปลายเท้าก็อาจสงสัยได้ว่าเกิดความผิดปกติของกระดูกสันหลังบริเวณสองปล้องสุดท้ายเป็นต้น 

 ข้อมูลอ้างอิง  โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์