☀☀ 5
สัญญาณเตือนภัยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ☀☀
ปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บนั้นคงไม่มีใครต้องการอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตเป็นอย่างมาก
และเมื่อเป็นแล้วการแก้ไขหรือรักษาค่อนข้างยุ่งยาก
และมีโอกาสที่จะหายขาดได้นั้นน้อยมาก โดยส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาในการรักษาเป็นเวลานานซึ่งก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง
ๆ ที่สูงตามไปด้วย วันนี้เรามีสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
มาฝากกันเพื่อที่หากมีอาการดังกล่าวแล้วก็ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย
และทำการรักษาให้โดยเร็วเพื่อป้องกันปัญหาของโรคอัมพฤกษ์
อัมพาตที่จะมาคุกคามชีวิตของเราได้อย่างทันท่วงที การที่เราสามารถค้นพบอาการเริ่มแรกของโรคอัมพฤกษ์
อัมพาต และรีบทำการตรวจรักษาโดยเร็วมากขึ้นเท่าไร จะทำให้โอกาสที่จะเสียชีวิต หรือทำให้เกิดการพิการลดลงมากขึ้นเท่านั้น
ต่อไปนี้คืออาการสำคัญ 5 อย่างที่ควรสังเกตุอย่างสม่ำเสมอดังนี้
☀ อาการชา หรือรู้สึกอ่อนแรงที่บริเวณหน้า ขา
หรือแขน ในซีกใดซีกหนึ่งอย่างทันทีทันใด
☀ อาการอารมณ์ และความรู้สึกเปลี่ยน เช่น
เอะอะ โวยวาย สับสน ซึม พูดจาลำบาก พูดไม่ชัดเจน หรือพูดไม่ได้ ไม่เข้าใจคำพูด
แบบทันทีทันใด
☀อาการปัญหาในการมองเห็น เช่น ตามัว
เห็นภาพซ้อนของตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างแบบทันท่วงที
☀อาการเวียนศรีษะ มึนงง เดินลำบาก เดินเซ
เดินไม่ได้ หรือส่งผลให้เกิดการสูญเสียการทรงตัวในการเดิน ยืน ในแบบทันทีทันใด
☀ มีอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรง โดยไม่มีสาเหตุ
แบบทันทีทันใด
หากพบว่ามีอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ไม่ว่าจะเป็นข้อใดข้อหนึ่งก็ตามแบบทันทีทันใด
ให้เกิดความสงสัยก่อนเลยว่านี่อาจเป็นสัญญาณแรกเริ่มของการเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย
และทำการรักษาโดยเร็วที่สุดภายในระยะเวลาไม่เกิน 3
ชั่วโมงนับตั้งแต่เริ่มมีอาการครั้งแรก
ถึงแม้ว่าอาการดังกล่าวจะหายไปในภายหลังไม่กี่นาทีก็ตาม
ก็ยังคงต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เพราะอาการดังกล่าวเหล่านี้คือสัญญาณเตือนที่เรียกว่า
ภาวะ Transient
ischemic attack (TIA) ซึ่งภาวะนี้จะส่งผลรุนแรงที่น้อยกว่าอัมพฤกษ์
อัมพาต ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักมีอาการไม่เกิน 1
ชั่วโมงโดยประมาณแล้วก็จะหายไปเองโดยไม่ต้องทำการรักษา
หากพบอาการดังกล่าวเกิดขึ้นนับว่าเป็นสัญญาณเตือนที่มีความสำคัญอย่างมาก
หากไม่รีบดำเนินการตรวจรักษาอาจทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตในเวลาต่อมาได้
นอกจากนี้อาการเตือนดังกล่าวยังไม่จำเป็นจะต้องเกิดล่วงหน้าเพื่อเป็นการเตือนสำหรับผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์
อัมพาตทุกคนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามปัญหาโรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
ไม่ว่าสัญญาณเตือนเหล่านั้นจะส่งผลต่อโรคที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่การดูแลสุขภาพที่ดีและการป้องกันเอาไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ
ในขณะเดียวกันการไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยก็ไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายใด ๆ
สำหรับผู้ป่วยทุกคนแต่จะดีเสียกว่าเพราะสามารถทราบได้ก่อนว่าควรป้องกันและรักษาอย่างไรต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง
- ข้อมูลจากหนังสือคู่มือความรู้เรื่องอัมพาต
สำหรับประชาชน โดยกรมควบคุมโรค
- นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 143 พฤศจิกายน 2555 โดย กองบรรณาธิการ