disable right click

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558



☀☀ 5 สัญญาณเตือนภัยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ☀☀
ปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บนั้นคงไม่มีใครต้องการอย่างแน่นอน โดยเฉพาะโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตเป็นอย่างมาก และเมื่อเป็นแล้วการแก้ไขหรือรักษาค่อนข้างยุ่งยาก และมีโอกาสที่จะหายขาดได้นั้นน้อยมาก โดยส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาในการรักษาเป็นเวลานานซึ่งก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สูงตามไปด้วย วันนี้เรามีสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มาฝากกันเพื่อที่หากมีอาการดังกล่าวแล้วก็ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาให้โดยเร็วเพื่อป้องกันปัญหาของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตที่จะมาคุกคามชีวิตของเราได้อย่างทันท่วงที การที่เราสามารถค้นพบอาการเริ่มแรกของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และรีบทำการตรวจรักษาโดยเร็วมากขึ้นเท่าไร จะทำให้โอกาสที่จะเสียชีวิต หรือทำให้เกิดการพิการลดลงมากขึ้นเท่านั้น ต่อไปนี้คืออาการสำคัญ 5 อย่างที่ควรสังเกตุอย่างสม่ำเสมอดังนี้
 อาการชา หรือรู้สึกอ่อนแรงที่บริเวณหน้า ขา หรือแขน ในซีกใดซีกหนึ่งอย่างทันทีทันใด
 อาการอารมณ์ และความรู้สึกเปลี่ยน เช่น เอะอะ โวยวาย สับสน ซึม พูดจาลำบาก พูดไม่ชัดเจน หรือพูดไม่ได้ ไม่เข้าใจคำพูด แบบทันทีทันใด
อาการปัญหาในการมองเห็น เช่น ตามัว เห็นภาพซ้อนของตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างแบบทันท่วงที
อาการเวียนศรีษะ มึนงง เดินลำบาก เดินเซ เดินไม่ได้ หรือส่งผลให้เกิดการสูญเสียการทรงตัวในการเดิน ยืน ในแบบทันทีทันใด
☀ มีอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรง โดยไม่มีสาเหตุ แบบทันทีทันใด
หากพบว่ามีอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นข้อใดข้อหนึ่งก็ตามแบบทันทีทันใด ให้เกิดความสงสัยก่อนเลยว่านี่อาจเป็นสัญญาณแรกเริ่มของการเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาโดยเร็วที่สุดภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงนับตั้งแต่เริ่มมีอาการครั้งแรก ถึงแม้ว่าอาการดังกล่าวจะหายไปในภายหลังไม่กี่นาทีก็ตาม ก็ยังคงต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เพราะอาการดังกล่าวเหล่านี้คือสัญญาณเตือนที่เรียกว่า ภาวะ Transient ischemic attack (TIA) ซึ่งภาวะนี้จะส่งผลรุนแรงที่น้อยกว่าอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักมีอาการไม่เกิน 1 ชั่วโมงโดยประมาณแล้วก็จะหายไปเองโดยไม่ต้องทำการรักษา
หากพบอาการดังกล่าวเกิดขึ้นนับว่าเป็นสัญญาณเตือนที่มีความสำคัญอย่างมาก หากไม่รีบดำเนินการตรวจรักษาอาจทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตในเวลาต่อมาได้ นอกจากนี้อาการเตือนดังกล่าวยังไม่จำเป็นจะต้องเกิดล่วงหน้าเพื่อเป็นการเตือนสำหรับผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตทุกคนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามปัญหาโรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ไม่ว่าสัญญาณเตือนเหล่านั้นจะส่งผลต่อโรคที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่การดูแลสุขภาพที่ดีและการป้องกันเอาไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ ในขณะเดียวกันการไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยก็ไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายใด ๆ สำหรับผู้ป่วยทุกคนแต่จะดีเสียกว่าเพราะสามารถทราบได้ก่อนว่าควรป้องกันและรักษาอย่างไรต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง
ข้อมูลจากหนังสือคู่มือความรู้เรื่องอัมพาต สำหรับประชาชน โดยกรมควบคุมโรค
- นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 143 พฤศจิกายน 2555 โดย กองบรรณาธิการ