ปวดข้อมือ มีพังผืดรัดที่ข้อมือ
โรคพังผืดรัดที่ข้อมือ
คือ โรคแฝงที่มากับโรคนิ้ว
พบได้ในหลากหลายอาชีพซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องใช้มืออย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
แต่ละโรคจะมีอาการปวดข้อมือ ปวดนิ้วมือ ปวดมือลามไปถึงข้อแขน ทุกครั้งที่มีอาการปวดควรได้รับการวินิจฉัยด้วยแพทย์ว่าเป็นโรคอะไร
แม้จะไม่อันตรายเหมือนโรคอื่นๆ
แต่ก็ทำให้เสียสมดุลย์ของร่างกายและไม่สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง
โรคพังผืดรัดที่ข้อมือ
อาการของโรค เกิดการชาบริเวณนิ้วมือ
นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งนิ้วนาง สาเหตุเกิดจากควมผิดปกติของข้อมือ
มีพังผืดรัดไว้ ทำให้นิ้วใช้งานไม่ได้
เกิดขึ้นได้ทั้งกลางวัน กลางคืน ขณะทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ขับรถ ช่วงเวลาถือโทรศัพท์และแท็บเล็ตขณะใช้งาน
ล้วนส่งผลต่อกล้ามเนื้อบริเวณฐานนิ้วมีอาการชา ในบางรายที่เป็นมากๆ
เนื่องจากเนื้อเยื่อพังผืดบางๆ รัดเส้นประสาทอีกชั้นหนึ่ง ทำให้มือลีบเล็กได้
หากมีอาการปวดมากๆ จะต้องบีบนวดเพื่อลดอาการชา และต้องรีบเข้ารับการรักษา โรคนี้จะพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
แต่ผู้หญิงอาจพบได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 30 – 40 ปี แม่บ้าน การพิมพ์งานที่ต้องใช้ข้อมือต่อเนื่องและเป็นเวลานาน
ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นอิริยาบถ ท่าทาง ทำให้มีการบิดตัวของข้อมือ มือ
และนิ้วมือเป็นเวลานาน
แต่มีวิธีการป้องกัน ดังนี้
บำบัดมือบำบัดนิ้วเพื่อการป้องกันโรค
พยายยามอย่าใช้ข้อมือในการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ นานเกินไป การบริหารข้อมือ
ด้วยการหมุนข้อมือไปทางซ้าย หรือทางขวา
เหยียดแขนให้ตึงแล้วใช้มืออีกข้างดันลง-ดันขึ้นให้ตรึง กำมือ-แบมือ
หรือใช้ลูกบอลเล็กสำหรับการบริหารมือบีบเข้าแล้วคลายออก วิธีการข้างต้น
ทำให้เส้นไม่ตึง ยืดหยุ่น และผ่อนคลายได้ จึงเป็นการป้องกันโรคที่ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด
วิธีการรักษาโรคพังผืดรัดที่ข้อมือ
- · รักษาด้วยการรับประทานยาต้านการอักเสบ
- · การฉีดยาสเตียรอยด์จะฉีดไปในโพรงข้อมือรอบๆ ช่องอุโมงค์เพื่อช่วยลดการอักเสบ
- · การผ่าตัด วิธีนี้มักใช้กับผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อลีบและแขนเริ่มอ่อนแรง
- · การทำกายภาพบำบัดใช้ร่วมกับการรักษาเพราะทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษามากที่สุด
ปวดนิ้วมือ ต้องรีบบำบัดมือ
แม้ว่าโรคเหล่านี้จะไม่อันตรายร้ายแรง แต่สามารถกลับมาเป็นได้อีก
หากชีวิตประจำวันต้องใช้มืออย่างต่อเนื่อง การใช้งานข้อมือ 1 ชม. ควรพักทุก 15-20
นาที
ฉะนั้นการบำบักมือป้องกันโรคจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง
รับประทานอาหารที่มีวิตามิน บี1 บี6 และ บี12
ได้แก่ ถั่วเมล็ดแห้ง เนื้อสัตว์ ตับ และข้าวซ้อมมือ เป็นต้น
เพราะมือก็ไม่ต่างจากหู หรือดวงตา ไม่สามารถใช้งานได้แค่เพียงส่วนเดียวก็ทำให้ชีวิตยุ่งยากขึ้นแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล