disable right click

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

หลังผ่าตัดข้อเข่าและสะโพกเทียมเริ่มมีอาการปวดควรทำอย่างไรดี




หลังผ่าตัดข้อเข่าและสะโพกเทียมเริ่มมีอาการปวดควรทำอย่างไรดี

     ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมที่รักษาโดยการผ่าตัดจะหายดีและกลับมาใช้งานข้อได้แบบปกติเหมือนกับคนที่ไม่เคยป่วยมาก่อนเลย  แต่มันก็ยังมีบางส่วนที่ยังมีอาการปวดหลังจากได้รับการผ่าตัดรักษาแล้ว ในกรณีนี้อาจจะมีน้อยแต่มันก็มีซึ่งในการผ่าตัดให้สำเร็จเพื่อเปลี่ยนกระดูกเทียมนั้นมีก็มีปัจจัยหลัก ๆ อยู่ 4 อย่างที่ผู้ป่วยจะต้องเข้าใจด้วย เรามาติดตามพร้อมกันเลย

ปัจจัยหลักที่ทำให้การผ่าตัดข้อเช่า/สะโพกเทียมประสบความสำเร็จ  
  •      ความชำนาญของแพทย์  ในส่วนนี้อย่าลืมว่าหมอก็คนธรรมดาเหมือนเรา ๆ ระดับความชำนาญจึงแตกต่างกันเป็นธรรมดา หมออาจจะสามารถผ่าตัดเปลี่ยนกระดูกข้อเข่าและสะโพกได้กันทุกคนแต่ว่าในด้านของประสบการณ์และความชำนาญการนั้นยังไงก็ไม่เท่ากัน พูดง่าย ๆ ก็คือ เก่งไม่เท่ากันนั่นเอง ผลที่ออกมานั้นจึงมีบ้างที่จะต้องต่างกันไป 
  •    . อุปกรณ์และเทคนิค  แน่นอนว่าจุดนี้ก็สำคัญเพราะว่าแม้หมอจะเก่งและมีทักษะความรู้มักแค่ไหน หากอุปกรณ์ในการใช้ผ่าตัดไม่ดีพอก็ทำให้ประสิทธิภาพของการผ่าตัดลดลงได้เหมือนกัน แต่ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีการผ่าตัดกระดูกข้อระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยแล้ว แพทย์สามารถทำงานได้อย่างสะดวกมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความคลาดเคลื่อนได้มากทีเดียว
  •    . ประเภทของข้อเทียมที่ใช้  มีหลายแบบมากซึ่งคุณภาพและอายุการใช้งานของกระดูกข้อเทียมเองก็นานไม่เท่ากัน และวัสดุที่นำมาใช้เป็นข้อเทียมเองก็จะต้องมีคุณภาพสูง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายผู้ป่วย แน่นอนว่าอายุการใช้งานนั้นมีสูงตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปจนถึง 30 ปีกันเลย
  •       ตัวผู้ป่วยเอง สำหรับข้อนี้ก็สำคัญมากหลังจากการผ่าตัดแล้วทีมแพทย์จะให้การแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ถ้าหากทำตามคำแนะนำทุกอย่างหลักการผ่าตัดอาการปวดก็จะไม่กลับมา แถมยังทำให้กระดูกเทียมนั้นมีอายุการใช้งานนานขึ้นด้วย


            ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การผ่าตัดสำเร็จได้หากขาดข้อใดข้อหนึ่งไปก็อาจจะทำให้ไม่สำเร็จเลย ในกรณีของการปวดที่ตามมาหลังจากการผ่าตัดก็อาจจะเป็น การติดเชื้อ ข้อตึง ข้อติด ข้อหลวม ข้อเทียมไม่เข้ากับร่างกาย สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และสิ่งที่ควรทำก็คือกลับไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อหาทางรักษาและแก้ไขการผ่าตัดกระดูกข้อเทียมโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการติดเชื้อมันอาจจะลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ ฉะนั้นแล้วเมื่อมีอาการปวดที่ผิดปกติจะต้องไปให้ถึงมือแพทย์โดยเร็วจะเป็นการดีที่สุดในการปฏิบัติตัว 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.bumrungrad.com/healthspot/January-2016/joint-replacement-success-factor-pain-after-tka-tha-surgery


วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ปวดเข่า ปวดข้อ อย่ารอนานต้องรีบพยาบาลอย่างถูกวิธี



ปวดเข่า ปวดข้อ อย่ารอนานต้องรีบพยาบาลอย่างถูกวิธี
เซไฮ๊! ก็อยากจะทักทายเป็นภาษาอังกฤษเพื่อรับหน้าหนาวสักหน่อย อากาศเย็นทีไรเจ็บจี๊ดปวดถึงใจเลย สำหรับคนที่ปวดข้อ ปวดกระดูก แต่ก็อย่าปล่อยเอาไว้นะ ควรไปหาหมอแบบเร็ว ๆ เลย แต่ก็อย่างพึ่งวินิจฉัยเองบางคนพอปวดข้อ ปวดเข่า อะไรขึ้นมาก็ว่ามันเสื่อมอย่างเดียวเลย มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้เพียงแค่กระดูกเสื่อมนั้นเป็นหนึ่งในสาเหตุของการปวดเฉย ๆ แต่มันอาจจะปวดเพราะอย่างอื่นก็ได้ เช่น ข้ออักเสบ ข้อเคลื่อน และอื่น ๆ อีกนานา ๆ สาเหตุเลย ทั้งนี้ส่วนอื่น ๆ ในร่างกายเองก็ส่งผลไปถึงข้อได้เหมือนกัน อย่าง เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ หากปวดพวกนี้ก็จะลามไปถึงส่วนข้อด้วยก็ได้

ปวดข้อปั๊บไปรักษาเร็ว ก็หายเร็ว
มีบ้างในบางกรณีที่ปวดข้อ เมื่อย จากการนั่งทำงานนาน ๆ หรือทำกิจกรรมเดิม ๆ แล้วปวดขึ้นมาแต่พอได้พักก็จะหายไปเอง แบบนั้นมันก็ดีแต่บางคนก็ปวดเรื้อรังไปแล้วพักนานแค่ไหนก็ยังปวด ถ้าจะให้ดีไปหาหมอเถอะ เป็นมากเป็นน้อยแค่ไหนเรามองไม่เห็น เพราะว่าข้อกระดูกมันก็อยู่ด้านในร่างกายของเราด้วย ไปหาหมอเร็วทำการวินิจฉัยเร็วและรู้สาเหตุก็รักษาได้ทัน เป็นผลดีต่อร่างกายของเราอีกด้วย ถ้าหากปล่อยเอาไว้นาน ๆ จนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ค่อยไปหาหมอบางทีมันอาจจะรักษาอะไรไม่ทันแล้วก็ได้นะ เพราะในเมื่อมันปวดขนาดนั้นก็แปลว่าร่างกายของเรากำลังร้องอยู่ว่า รักษามันได้แล้วมันก็ไม่โอเคแล้วในตอนนั้น

รักษากายภาพบำบัดหายแล้วต้องทำอย่างไร
ยินดีกับคนที่รักษาจนหายแล้วการทำกายภาพบำบัดนั้นทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้แบบปกติที่สุด และเมื่อหายแล้วก็จะต้องยิ่งดูแลตัวเองให้มากขึ้น อะไรที่ควรเลี่ยงก็ต้องเลี่ยงให้ได้ ไม่ควรจะทำงานหนักเกินไป อะไรที่มันดีต่อสุขภาพร่างกายของเราต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้ว หากคุณเลือกแต่สิ่งดี ๆ ให้ตัวเอง ออกกำลังกายให้พอเหมาะ พักผ่อนบ้าง ใช้ชีวิตระวังมากขึ้น ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ร่างกายก็แข็งแรงขึ้นด้วยนั่นเอง


         ขั้นตอนในการทำกายภาพบำบัดนั้นทางเจ้าหน้าที่นักกายภาพหรือแพทย์จะเป็นผู้แนะนำให้ทั้งหมดว่าต้องทำท่าไหน แบบไหนถึงจะเหมาะสมกับร่างกายของผู้ป่วยมากที่สุด หากเราเลือกทำกายภาพเองนั้นอาจจะเสี่ยงอันตรายมากกว่าเดิมก็ได้ ฉะนั้นเพื่อความแน่ใจควรทำตามคำแนะนำของทีมแพทย์จะดีกว่า เมื่อทราบวิธีแล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัดเพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรงกลับมาอีกครั้ง 
ขอบคุณข้อมูลจาก www.bumrungrad.com/th/betterhealth/2556/Stay-Active-Pain-Free/Pain-relief



สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line 
เพิ่มเพื่อน

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รู้หรือไม่ ข้อต่อไหล่ยิ่งเราเคลื่อนไหวมากยิ่งมีโอกาสเสี่ยงไหล่หลุดมากเท่านั้น




รู้หรือไม่ ข้อต่อไหล่ยิ่งเราเคลื่อนไหวมากยิ่งมีโอกาสเสี่ยงไหล่หลุดมากเท่านั้น 
          ร่างกายของเรานั้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ทุกวันและส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวของส่วนต่าง ๆ นั้นจะเป็นข้อต่อ ทำงานร่วมกันกับเส้นเอ็น และ กล้ามเนื้อ จากการสั่งงานของสมอง หากต้องอธิบายการทำงานอย่างละเอียดของสิ่งเหล่านี้คงยาวเกินไป วันนี้เราจะมาเน้นกันที่ข้อต่อของหัวไหล่ที่มีการเคลื่อนไหวมากกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย ซึ่งก็เป็นการเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บโดยอาจจะ หลุด เคลื่อน ได้ง่าย ๆ เพราะว่ามันเป็นส่วนข้อต่อที่ค่อนข้างเป็นอิสระจากกันพอสมควร

ทำไมข้อต่อหัวไหล่ถึงหลุดได้ง่าย 
เมื่อเทียบกับข้อต่อและกระดูกตามโครงสร้างแล้วหัวไหล่ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากเพื่อนเลย เพราะว่ามันไม่ได้ชิดกันด้วยความเป็นกระดูกด้วยกันเอง แต่ว่าที่มันมีระดับคงที่ทำงานได้ดีนั่นเป็นเพราะว่ามีส่วนของกล้ามเนื้อหัวไหล่เป็นตัวหุ้มเอาไว้อยู่ จึงไม่แปลกเลยที่ข้อต่อหัวไหล่จะหลุดได้ง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ยิ่งถ้าหากใครใช้งานไหล่มาก ยกของหนัก ทำงานเกินกำลังกล้ามเนื้อก็เริ่มอ่อนแรงลงตาม กระดูกข้อต่อหัวไหล่ซึ่งมันไม่ได้คงที่ด้วยตัวมันเองอยู่แล้วก็จะหลุดหรือเคลื่อนได้ง่าย ๆ นั่นเอง 

        อย่างที่เราทราบกันว่าข้อต่อหัวไหล่หลุดนั้นพบได้มากและบ่อยที่สุดแล้ว หากเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อในส่วนของหัวไหล่ได้รับบาดเจ็บก็จะทำให้ไหล่ของเรานั้นทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ตามไปด้วย เพราะว่ามันไม่ได้ทำงานตัวคนเดียว หัวไหล่เป็นสิทธิพิเศษที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันกับกล้ามเนื้อชั้นใน และชั้นนอกคอยหุ้มและประคองเอาไว้ รวมไปถึงเส้นเอ็นด้วย เพราะความเคลื่อนไหวที่คล่องตัวจึงทำให้เราสามารถที่จะทำงานทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันได้อย่างที่เราต้องการเลย นอกจากกระดูกแล้วกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นก็ยังมีโอกาสที่จะฉีกขาดได้ง่ายอีกด้วย 

         การป้องกันไม่ให้ไหล่หลุดในเบื้องต้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองคือ การรู้กำลังและเข้าใจสรรถภาพร่างกายของตัวเองว่า แค่ไหนยังไหว แค่ไหนที่หนักเกินไป หากรู้ว่าไม่ไหวก็ควรจะหยุดทันทีหากฝืนกำลังไหล่ก็หลุด กระดูกไหล่เคลื่อน กล้ามเนื้อไหล่และเส้นเอ็นเสี่ยงต่อการฉีกขาดทำให้เจ็บปวดและต้องใช้เวลาในการรักษานานอีกด้วย หากคุณรู้สึกว่าปวดไหล่มากจนถึงขั้นขยับเคลื่อนไหวไม่ได้หรือเจ็บแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนไม่ว่าจากสาเหตุอะไรก็ตาม ให้รีบไปพบแพทย์ในทันทีหากปล่อยเอาไว้อาจจะทำให้อาการทรุดลงมากกว่าเดิมก็เป็นได้  หากวันนี้คุณยังสุขภาพดีไม่เจ็บป่วยก็จะต้องดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไป
ขอบคุณข้อมูลจาก www.bumrungrad.com/healthspot/November-2014/rotator-cuff-tear

ปวดไหล่

สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line 
เพิ่มเพื่อน

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

4 แนวทางสุขภาพ ห่างไกลจากโรค กระดูก และ ข้อเสื่อมที่ควรรู้



4 แนวทางสุขภาพ ห่างไกลจากโรค กระดูก และ ข้อเสื่อมที่ควรรู้

         กาลเวลาหมุนพาทุกอย่างเปลี่ยนแม้บางครั้งมันก็มิได้เปลี่ยนใจคนดังว่า แต่สำหรับร่างกายแล้วการโรยราถือเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าใครจะโรยช้าโรยเร็วก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละ การดูแลสุขภาพร่างกาย การเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ การพักผ่อน การออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้มีผลต่อร่างกายโดยตรงเลย สำหรับกระดูกและข้อก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่จะต้องโรยราไปเช่นกัน และโรคกระดูกและข้อเสื่อมพบได้กับทุกคนแต่ส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้สูงอายุเพราะว่าเสื่อมไปตามสภาพ กระดูกบาง เปราะลงกว่าเดิมเพราะเราใช้งานมันเป็นเวลานานทั้ง เคลื่อนไหว เสียดสี กระแทก ต่าง ๆ นานา ๆ ของการใช้ชีวิต


ทำอย่างให้ห่างไกลจากโรคกระดูกและข้อเสื่อม

(1.)    การสร้างกล้ามเนื้อ  โดยการออกกำลังกาย ที่เหมาะสมต่อสภาพร่างกาย ไม่ควรหักโหมหรือออกมากเกินไป  กีฬาบางประเภทที่ใช้ข้อหนักเกินไปก็ส่งผลเสียมากกว่าผลดี ทำให้ กระดูกและข้อเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิมเสียอีก

กล้ามเนื้อเป็นมีส่วนสำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระของข้อต่อเมื่อร่างกายเคลื่อนไหว โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณเอ็นข้อต่อถือว่าเป็นจุดสำคัญในการเคลื่อนไหวของการออกกำลังแทบทุกประเภท การมีกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลังที่แข็งแรง จะทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังรับภาระน้อยลง ซึ่งลดความเสี่ยงต่อความเสื่อมได้มาก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเริ่มฝึกกล้ามเนื้อใด ๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อไม่ให้การ การออกกำลังกายนั้นไม่ไปสร้างภาระให้กับข้อกระดูกของร่างกาย


(2.)  การควบคุมน้ำหนัก  ถ้าอ้วนอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น ยิ่งปัจจุบันบางประเทศระบุว่า “อ้วน” คือ “พิการ” อีกด้วย ความอ้วนกับกระดูกเกี่ยวพันธ์กันมาก เพราะยิ่งน้ำหนักตัวของเราเยอะเท่าไร กระดูกก็จะต้องรองรับน้ำหนักเรามากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะข้อต่อในส่วนต่างๆ  ข้อเข่า ข้อสะโพก และ กระดูกสันหลังจะทำงานหนักเป็นพิเศษ ยิ่งอ้วนก็ยิ่งทำให้กระดูกเสื่อมเร็วเท่านั้น


(3.)   การปรับเปลี่ยนอิริยาบถ  แล้วใครว่ากระดูกข้อเสื่อมจะเกิดเฉพาะกับคนแก่ หรือคนอ้วนเท่านั้น คนปกติเราก็มีโอกาสที่จะเกิดได้ ยิ่งถ้าหากใครที่ชอบอยู่ในอิริยาบถที่ผิดจากท่าทางปกติ แม้กระทั่งการเดินขึ้น – ลง บันไดบ่อยครั้ง การนั่งยอง การลุกยืน และอื่น ๆ ที่ไม่ปกติหรือแม้แต่ปกติที่เคลื่อนไหวบ่อย ทำให้เกิดการเสียดสีของกระดูกมากก็เสี่ยงได้

(4.)  การเลือกรับประทานอาหารและยาที่มีประโยชน์ โดยจะให้เน้นไปที่ยาตัวที่เป็นกลูโคซามีน และ คอนโดรอีทีน ซึ่งจะช่วยสร้างไขมันที่กระดูกและไขข้อเคลือบเอาไว้ แต่ว่ายานี้ใช้กับคนที่เป็นข้อเสื่อมระยะเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนการรับประทานอาหารก็เลือกส่วนที่บำรุงกระดูกและอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ง่าย ๆ คือ ทานให้ครบ 5 หมู่ในหนึ่งวันและดื่มน้ำเยอะ ๆ ดื่มนมด้วย
      มาถึงย่อหน้าสรุปของบทความกันแล้ว ถ้าหากอยากจะห่างไกลจาก โรคกระดูกและข้อเข่าเสื่อม จะต้องเลือกบำรุงสุขภาพให้ถูกวิธี ทานอาหารที่ดี รู้จักออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่เสมอและระมัดระวังอย่าทำงานหนักเกิดไป อย่าอยู่ในอิริยาบถที่ผิดท่า สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ เท่านั้นก็จะห่างไกลจากโรคกระดูกเสื่อมไปได้แล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก www.bumrungrad.com/th/betterhealth/2554/pain-free/healthier-joints 


วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

อาการปวดข้อใคร ๆ ก็เป็นได้



อาการปวดข้อใคร ๆ ก็เป็นได้ รู้จักไว้แต่เนิ่นๆดีกว่า
            หากเกิดอาการปวดตามข้อขึ้นมาหลายคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ หายาทานและหายาทาก็สามารถบรรเทาอาการปวดไปได้ แต่ทว่าปล่อยไว้นานๆ อาการปวดข้อก็ไม่มีท่าทีดีขึ้น เนื่องจากอาการปวดข้อผู้เป็นอาจเข้าใจว่าสามารถหายเองได้ ฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากกว่าเดิมดีกว่า

สาเหตุของอาการเจ็บปวดตามข้อต่างๆ
          อาการปวดข้อเกิดได้หลายสาเหตุ โดยมากแล้วเกิดจากข้อมีการอักเสบ จึงทำให้รู้สึกเจ็บปวด อย่างไรก็ตามคำว่าข้ออักเสบนั้นไม่ได้หลายถึงกระดูกเพียงสองหรือสามชิ้น หากแต่รวมไปถึงส่วนประกอบของข้อทั้งหมด อาทิ กระดูกอ่อน หมอนรองข้อและเส้นเอ็นข้อ ฉะนั้นการจะวินิจฉันหาว่าข้ออักเสบเนื่องจากอะไรนั้นยาก เพราะคนที่ป่วยเป็นข้ออักเสบมีสาเหตุอยู่เป็นร้อย ๆ แบบ
        ซึ่งในหลายสาเหตุนั้นจะมีสาเหตุที่เราคุ้นเคยมากที่สุดก็คือ ข้ออักเสบเนื่องจากอุบัติเหตุ ข้ออักเสบเนื่องจากรูมาตอยด์ ข้อเสื่อม โรคเกาต์ และอย่างอื่นมากมายไม่ว่าจะเป็น ข้อติดเชื้อ ภูมิแพ้ และโรคผิวหนังบางชนิด ซึ่งควรจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที เพราหากปล่อยให้เกิดอาการปวดข้อไปนานๆแล้วรับประทานยาเองเพื่อหวังให้อาการทุเลาลง อาจจะทำให้อาการปวดเรื้อรังเป็นเวลานานจนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเสื่อมได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก

โรคปวดข้อ รู้ก่อนรักษาง่าย
           เมื่อทราบว่าตนเองปวดข้อที่ใดบ่อย ๆ ไม่ควรนิ่งดูดายหรือซื้อยามาทานเองเพื่อทุเลาอาการ เมื่อทุเลาแล้วก็ไม่ยอมมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาเลย นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าปัญหานี้สามารถส่งผลต่อข้อในระยะยาวได้ โรคข้อเสื่อมนั้นมักจะพบได้บ่อยมากในผู้สูงอายุและคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือป่วยเป็นโรคอ้วน เนื่องจากข้อทำหน้าที่และรับน้ำหนักมากเกินไป
         ข้อเสื่อมนั้นเกิดจากการที่ผิวกระดูกอ่อนถูกทำลายลงไปเรื่อยๆโดยมีการลอกหลุดและบางลงจนเกิดความเจ็บปวดและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการข้อบวม แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อที่จะรักษาได้อย่างตรงจุดต่อไป

วิธีการรักษาของแพทย์
             หากว่าผู้ป่วยมาพบแพทย์แต่เนิ่นๆแล้ว การรักษาโดยวิธีผ่าตัดจะไม่เกิดขึ้น แต่ทว่ามีผู้ป่วยหลายรายที่เข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณหมอกังวลและพยายามให้ผู้ป่วยเร่งฟื้นฟูร่างกายตนเองมากที่สุด คือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม หรือผ่าตัดเปลี่ยนเข่าเทียม

         ซึ่งจะต้องเร่งฟื้นฟูร่างกายภายใน 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด นั่นก็คือการขยับและเคลื่อนไหวข้อที่ได้รับการผ่าตัดไป ไม่ควรนอนนิ่งเฉย เนื่องจากการขยับร่างกายและบริหารข้อบริเวณที่ได้รับการผ่าตัด จะทำให้ข้อเทียมกระชับเข้าที่ อีกทั้งเป็นการช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ ข้อ เป็นการยืดอายุการใช้งานของข้อให้ยาวนานยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก www.bumrungrad.com/th/betterhealth/2556/Stay-Active-Pain-Free/Pain-relief