นิ้วมือก็ต้องการให้ดูแลสุขภาพและกระดูกนิ้วมือก็สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น
มือของเรามีการใช้งานทุกวันและแทบจะทุกเวลาเลยแม้กระทั่งเวลาที่เราหลับอยู่มือของเราก็อาจจะยังทำงานก็ได้
กับการใช้งานมือหนักใครที่ต้องหิ้วของ แบกของ ยกของหนัก
หรือใช้งานพิมพ์เอกสารหน้าคอมพิวเตอร์ จัดโน่นนี่นั่น จับโน่น จับนี่
ทุกอย่างใช้มือหมดเลย
เป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่เราเห็นมันเป็นปกติทุกวันจนลืมคิดว่าไปว่ามันก็ต้องการจะพักผ่อนเหมือนกัน
หากใช้งานมันหนักเกินไปก็มีอาการล้า ปวดเมื่อย เกร็ง นิ้วล็อค ต่าง ๆ นานา
เกิดขึ้นได้เลย
เมื่อปัญหามันเกิดแล้วหลายคนถึงมองเห็นว่ามันก็ต้องการพักและต้องการให้เราดูแลเอาใจใส่เหมือนกัน
โรคที่เกิดกับมือและนิ้วมีอะไรบ้าง
หากจะตอบแบบกว้าง ๆ
เลยคงหลายโรคมากแต่ในส่วนนี้เราจะยกมาเพียงแค่เกี่ยวกับโรคที่เกิดจากการใช้งานนิ้วและมือหนักเกินไปคือการเป็นพังผืดรัดเส้นประสาทฝ่ามือ
(Carpal Tumnel Syndrome หรือ CTS) และ
โรคนิ้วล็อค (Repetive Strain Injury) โดยเฉพาะนิ้วล็อคคนที่ต้องใช้งานนิ้วทุกวัน
ๆ อยู่หน้าคอมฯ นี่เป็นบ่อยมาก เรามาทำความรู้จักกับสองโรคนี้กันสักหน่อย
โรคนิ้วล็อค (Repetive
Strain Injury)
เป็นหนึ่งในโรคออฟฟิตซิงโดรนที่เราได้ยินกันบ่อย
ๆ เลย แต่ว่ามันก็ไม่ได้เกิดแต่เฉพาะกับคนที่ทำงานพิมพ์เท่านั้น
คนที่ต้องใช้มือในการยกของ ใช้แรงงานมากมาก ๆ ก็เป็นได้เหมือนกัน
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้นส่งผลให้นิ้วและมือทำงานเกินกำลัง เช่น การยกของหนัก
การบิดผ้าแรง ๆ หากอาการหนักมาก ๆ จะไม่สามารถที่จะขยับนิ้วมือได้เลย
ต้องรอให้มันคลายตัวหรือไปพบแพทย์หากมันไม่ดีขึ้น
โรคพังผืดรัดเส้นประสาทฝ่ามือ
(Carpal Tumnel Syndrome หรือ CTS)
โรคนี้เกิดง่ายมากในยุคนี้โดยเฉพาะกับใครที่ต้องทำอะไรที่ใช้มือแบบนาน
ๆ ซ้ำ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสาร การใช้งานมือถือเป็นเวลานาน ๆ ขับรถนาน ๆ
หลายชั่วโมงทุกวัน ๆ แบบที่ไม่มีการเปลี่ยนท่าเลยแบบนี้มือมันเหนื่อยนั่นเอง
ซึ่งกิจกรรมอะไรแบบนี้จะทำให้ส่วนของเส้นพังผืดบริเวณฝ่ามือกับเอ็นข้อนั้นเริ่มชา
โดยจะชาไปทั้งมือเลย จากนั้นก็ล้า ปวดเมื่อย
เป็นหนักมากก็ปวดยันแขนถ้าหากหนักกว่านั้นมือจะไม่สามารถหยิบจับอะไรได้เลย
มันค่อนข้างน่าเป็นห่วงทีเดียว
เมื่อทราบกันแล้วว่ามันน่ากลัวอย่างไรกับโรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับนิ้วและมือของเราได้
ฉะนั้นหากรู้ตัวว่าเป็นคนหนึ่งที่กำลังใช้งานมือหนักจนเกินไปควรที่จะหาเวลาพัก
และนวดผ่อนคลายมือเบา ๆ บ้าง จะทำให้มือไม่ต้องพบกับอาการเจ็บปวดต่าง ๆ ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก www.bumrungrad.com/th/betterhealth/2554/pain-free/posture-matters
