disable right click

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559

ภาวะของอาการไหล่ติดแข็งคืออะไร



ภาวะของอาการไหล่ติดแข็งคืออะไร
อาการของภาวะที่เกิดไหล่ติดแข็ง (Frozen Shoulder) เป็นภาวะของปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ที่ต้องมีการเคลื่อนไหวหลายทิศทาง อย่างเช่น การที่ไม่สามารถที่จะยกแขนให้เหนือศีรษะได้จนสุดแขน และไม่สามารถที่จะหวีผมด้านหลังของตัวเองได้ เป็นการจำกัดความเคลื่อนไหวของบริเวณข้อไหล่และจะมีอาการปวดอย่างมากในเวลาที่มีการเคลื่อนไหวด้วย หรือแม้ว่าจะอยู่นิ่งๆ ก็ตาม
สาเหตุของอาการไหล่ติดแข็ง
เกิดได้จากการที่มีการอักเสบของบริเวณเยื่อหุ้มส่วนข้อและมีความหนาตัวของเยื่อหุ้มข้อส่วนนั้นด้วย จะทำให้เกิดขึ้นภายหลังจากการที่บริเวณข้อไหล่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีอาการที่เกิดมาจากภายในหลังจากการใช้งานบริเวณของข้อไหล่ามากเกินไป และการที่ได้นอนทับแขนเป็นเวลานาน
การดำเนินอาการของโรคไหล่ติดแข็ง
1.       ในช่วงของระยะแรกๆ จะมีอาการปวดบริเวณข้อไหล่ ในเวลาที่มีการเคลื่อนไหวจะมีอาการประมาณ 2 – 9 เดือน
2.       ระยะที่สองของอาการปวดบริเวณข้อไหล่จะเริ่มลดน้อยลง แต่การเคลื่อนไหวบริเวณของไหล่จะสามารถทำได้น้อยลงด้วย จะมีอาการประมาณ 4  - 12 เดือน
3.       ระยะสุดท้าย ร่างกายจะเริ่มมีอาการฟื้นตัว การขยับบริเวณของข้อไหล่ดีขึ้น จะมีอาการประมาณ 12 – 42 เดือน
ท่าทางของการนอนที่มีความเหมาะสม ควรที่จะหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงด้วยการทับบริเวณส่วนของแขน แต่ถ้ามีการนอนหงายแล้วมีผ้ารองบริเวณของข้อไหล่จะทำให้อาการปวดข้อไหล่บรรเทาอาการมากขึ้นได้
ท่าบริหาสำหรับข้อไหล่ติดเบื้องต้น
ทางแรกคือการนอนราบกับพื้นให้มือข้างหนึ่งจับบริเวณข้อศอก เพื่อยกแขนขึ้นจนติดกับพื้นทำอย่างนี้ประมาณ 10 ครั้งต่อรอบ ประมาณ 3 รอบต่อวัน ท่าต่อมาคือการยืนให้มือจับข้อศอกให้แขนข้ามร่างกายจนสุด และท่าสุดท้ายคือการใช้มือทั้ง 2 ข้างจับกับผ้าเช็ดตัวดึงลงจนไหล่เริ่มรู้สึกตึงๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักเรื่อยในทุกวัน
การรักษาทางกายภาพบำบัดอาการไหล่ติดแข็ง

ด้วยการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าเพื่อลดอาการปวดบริเวณที่เกิดอาการ การนวดด้วยไฟฟ้าเพื่อช่วยในการลดอาการปวดของข้อไหล่ และการดัดดึงบริเวณส่วนของข้อเพื่อเพิ่มความคล่องในการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ การรักษาอาการด้วยกายภาพบำบัด จะมีส่วนช่วยให้ผู้ที่มีอาการปวดบริเวณข้อไหล่อย่างมากมีอาการบรรเทาลงได้ และอาการก็จะสามารถดีขึ้นถ้าผู้ที่มีอาการได้รับการรักษาตั้งแต่เนินๆ และมารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.intervej.com/viewnews.php?id=269


สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line 
เพิ่มเพื่อน