ออฟฟิตซินโดรมโรคที่น่ากลัวที่มาเงียบ ๆ
ในยุคปัจจุบัน
โรคออฟฟิตซินโดรม (Office Syndrome) จะเรียกแบบง่าย ๆ ว่าโรคของคนทำงานออฟฟิตนั่นเอง
ซึ่งมันก็ไม่เสมอไปว่าต้องเป็นคนออฟฟิตแต่อาชีพอื่น ๆ ที่มีลักษณะงานคล้าย ๆ
กันก็มีโอกาสที่จะเป็นได้ ใครที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
ไม่ค่อยได้พัก บ้างานก็ว่าได้ กล้ามเนื้อส่วนหลัง กระดูก นิ้วมือ ไหล่ ช่วงแขน
จะเริ่มทำงานหนักทำให้มีอาการปวดเมื่อย
นอกจากนั้นแล้วระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย การดูดซึมอาหารและอื่น ๆ
ยังเพี้ยนไปด้วย แต่ว่าที่เห็นได้ชัดก็จะเป็นอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ
ของร่างกายนั้นเอง เรามาดูกันว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดเป็นโรคออฟฟิตซินโดรมได้กันบ้างมาติดตามกันได้เลย
สาเหตุที่ทำให้เป็นโรคออฟฟิตซินโดรม
นั่งบนเก้าอี้ หน้าคอมพิวเตอร์
ทำงานมากเกินไป เกินกว่า 6 ชั่วโมงโดยไม่ค่อยได้มีเวลาพักหรือการนั่งเป็นเวลานาน ๆ
ก็เป็นได้เช่นกันไม่ใช่แค่เฉพาะนั่งทำงานเท่านั้นการทำกิจกรรมอะไร ที่มันส่งผลต่อกล้ามเนื้อ
ร่างกาย ในรูปแบบเดิม ๆ เป็นเวลานานก็เป็นโรคนี้ได้เลย
แต่มาเจาะที่คนทำงานออฟฟิตจะหนักกว่าใครเขา
เวลาที่นั่งทำงานนั้นอาจจะมีการนั่งผิดท่าทาง หลังค่อ ก้ม เอียง
ใช้งานนิ้วในการพิมพ์ ใช้สายตาจ้องมองจอ
และช่วงแขนหัวไหล่ก็จะปวดเพราะต้องประคองส่วนของมือ
แต่อีกสาเหตุที่ทำเกิดโรคออฟฟิตซินโดรมก็สภาพแวดล้อมภายในที่ทำงานนั้นไม่ได้น่านั่งทำงานเลย
ส่งผลกระทบต่อจิตใจคนทำงาน จึงกระทบมาถึงร่างกายด้วย
และยิ่งใครที่ยิ่งร่างกายอ่อนแอ ไม่ดูแลตัวเอง ป่วยบ่อยนั้น โรคนี้ยิ่งเข้าโจมตีได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
ทำอย่างไรถึงจะหายจากการเป็นโรคออฟฟิตซินโดรม
ไม่ยากเลยถ้าหากอยากจะหายหรือไม่อยากเป็น
ก่อนอื่นจะต้องรู้ตัวเองก่อนว่ากำลังเริ่มที่จะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคนี้แล้ว
จากนั้นให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิม ๆ ที่เคยทำอยู่ให้ดีขึ้น อย่างน้อยใน 1 วัน
ต้องหาเวลาในการออกกำลังกายให้ได้สัก 30 นาที
เลือกทานอาหารให้มีประโยชน์ที่สำคัญพยายามบังคับตัวเองให้ทานข้าวตรงเวลาและครบทั้ง
3 มื้อด้วย การพักผ่อนก็เช่นกันควรนอนในเวลาที่ต้องนอน อย่าบ้างานเกินไป
หากนั่งทำงานอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์มาเกิน 6 ชั่วโมงแล้ว นั่นมันนานไป ก็ออกไปพักสายตา
พักไหล่ พักนิ้ว พักหลัง หาอะไรทำบ้าง อย่างน้อย ๆ สัก 10 นาที ก็ยังดีนะ
และใครที่เป็นแล้วไม่หายสักทีก็ควรจะต้องไปพบแพทย์ได้แล้ว
แม้ว่าโรคออฟฟิตซินโดรมนั้นไม่ได้น่ากลัวเท่าไรนัก
และไม่ใช่โรคติดต่อ แต่มันก็ทำอันตรายให้กับร่างกายของเราได้ อีกทั้งยังกระทบไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
เราเองที่เป็นเจ้าของร่างกายเราควรจะรู้ตัวเองดีว่าควรจะต้องทำอะไรบ้าง
ไม่ควรจะปล่อยให้ร่างกายทำงานหนักเกินไปในด้านใดด้านหนึ่ง
โรคนี้แม้จะหายได้แต่ถ้าปล่อยเอาไว้ก็อาจจะมีอย่างอื่นแทรกซ้อนมาทำให้เสียเวลาไปอีกมากเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก www.bumrungrad.com/th/rehabilitation-clinic-sathorn/conditions/office-syndromes
