disable right click

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

4 ปัญหาปวดๆ ที่เกิดในยุคสมาร์ทโฟน (2)



4 ปัญหาปวดๆ ที่เกิดในยุคสมาร์ทโฟน (2)
 3.กดไม้ยั้งทำนิ้วล็อค

อาการปวดและชาบริเวณมือ โดยเฉพาะโคนนิ้วจนไมสามารถหยิบได้ มักพบเสมอในสาวกสมาร์ทโฟน
ที่ไม่ว่าจะอยู่ทีไหนก็กดได้ทุกที่ทุกเวลา คุณหมอจิรันธนินเตือนว่า “การใช้งานสมาร์ทโฟนมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น โดยเฉพาะข้อต่อ ทำให้เกิดอาการปวด ตึง และชา จนมีโอกาสเสื่อมได้ก่อนวัยอันควร เป็นสาเหตุของนิ้วล็อกหรือแบล็คเบอร์รี่ทัมบ์ซินโดรม”
            แบล็คเบอร์รี่ทึ่มบ์ซินโดรม (BIackberry Thumb syndrome) เป็นอาการปวดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
บริเวณโคนนิ้วโปัง เนื่องจากใช้งานหนักเกินไป คือ ใช้อุปกรณ์อิเลีกทรอนิกส์ติดต่อกันนาน ๆ กดปุ่ม ซ้า ๆ มาก ๆ จนกล้ามเนื้อเกิดอาการล้าและบาดเจ็บสะสม มีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อและข้อต่อยึด อาจนำไปสู่ข้อต่ออักเสบหรือเส้นเอนอักเสบได้เร็วขึ้น

4.ภาพเสมือนจริงทำให้คลื่นใส้
             การดูภาพสามมิติหรือได้สมาร์ทโฟนไนระบบ IOS 7 ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ดวงตาล้า หรือบางรายอาจถึงขั้นปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส อาเจียนได้ ดังที่มีกรณีร้องเรียนจากผู้ใช้หลายรายไปยังบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่แห่งหนื่งว่าระบบภาพเหมือนจริงที่คมชัดเป็นพิเศษของสมาร์ทโฟน ทำให้มีอาการเหมือนเมารถ หลังจากใช้ไปเพียง 20 นาทิ
            เฟรเดอริก โบนาโต้ (Frederlck Bonato) นักจิตวิทยา มหาวิทยาสัยมงต์แคลร์สเตต (Montclalr State Unlverslty) รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งศึกษาเรื่องอาการป่วยจากเทคโนโลยี หรือ ไซเบอร์ซิก (cyberslck) อธิบายว่า อาการเช่นนี้น่าจะเกิดจากจอภาพที่มี่ความคมชัดสูง และกลไกที่เรียกวา พารัลแลกช์เอฟเฟ็กต์ (Parallax Effect) ซึ่งไอคอนต่าง ๆ บนหน้าจอจะเคลื่อนไหวเล็กน้อยอยู่ตลอดเวลา เพื่อหลอกสมองให้เห็นเป็นภาพสามมิติ ไอคอนต่าง ๆ จึงเหมึอนลอยอยู่เหนือแบ็กกราวนด์ แถมทุกครั้งที่ใช้เปลี่ยนแอปพลิเคชันจะรู้สืกเหมือน
ตัวโดนดูดเข้าหรือดึงออกจากหน้าจอกลไกเช่นนี้ทำให้สมองสับสน เนื่องจากสมองเห็นภาพที่ทำให้เข้าใจว่า
ตัวกำลังเคลื่อนไหว ทั้งที่จริง ๆ แล้วกำลังอยู่นิ่ง และย่างภาพนั้นคมชัดมาก สมองจึงเข้าใจว่าภาพที่เห็นเป็นของจริง
            คุณเฟรเดอริกยังบอกอีกว่า อาการเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับผู้ชมภาพยนตร์สามมิติและเล่นเกมซิมมูเลเตอร์เช่นกัน แต่ผู้ใเช้สมาร์ทโฟนจะได้รับผลกระทบมากกว่าเนื่องจากจอเล็กกว่า เราจึงวางชิดกับใบหน้ามากกว่า ทำให้สมองจดจ่ออยู่แต่ภาพที่เห็น ยิ่งแท็บเล็ตซึ่งมีหน้าจอใหญ่ก็จะยิ่งครอบคลุมกรอบการมองเห็นที่กว้างกว่า
ทำให้รู้สึกสบายได้ง่ายขึ้น
            นอกจากนี้ กามองภาพสามมิติยังทำให้ดวงตาสับสน เพราะภาพที่ดวงตาเห็นเป็นสามมิติ แต่จริง ๆ มีแค่สองมิติ ทำให้ดวงตาไม่รู้จะโฟกัสที่จุดไหน ถ้าดูนานๆ อาจเกิดอาการล้าและปวดศีรษะได้

คุณควรทำทุกอย่างตามที่แนะนำ และใช้อย่างมีสติ จะช่วยให้ทุกคนใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างมีความสุข


ขอบคุณข้อมูลจาก ชีวจิต ฉบับ 366 มกราคม 2557


สมัครแจ้งบทความใหม่ผ่านทาาง Line 
เพิ่มเพื่อน