ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินจะต้องใช้ชีวิตอย่างไร
เพื่อให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง
โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่หลายคนคงจะเคยเห็นและรู้จักกันดี
เวลาเป็นแล้วหากเป็นเยอะ ๆ เห็นชัดจะไม่ค่อยน่ามองเท่าไรเพราะเป็นด่าง ๆ มีขุย ๆ
อีกด้วย
เมื่อเป็นแบบนั้นตัวผู้ป่วยเองเริ่มที่จะท้อแท้เพราะว่าอายต่อสภาพที่กำลังรับมืออยู่
บางคนถึงกับปิดตัวเองมิดชิดอยู่ในบ้านไม่ออกไปพบหน้าใครเลย
สังคมของคนที่ไม่เข้าใจจะรู้สึกขยาดสิ่งที่เขากำลังเป็นเพราะว่าดูสกปรกไปหมด
วันนี้เราจะนำเอาวิธีการปรับตัวและรับมือกับโรคสะเก็ดเงินสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการจะอาการดีขึ้นและมีสุขภาพดี
มาติดตามกันได้เลย
สุขภาพเป็นเรืองใหญ่
จิตใจเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับผู้ป่วยมาดูแลตัวเองกันเถอะ
เรื่องแรกเลยจะเป็นเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารอย่าลืมว่าตัวเองกำลังป่วยอยู่จะตามใจปากมากไม่ได้โดยเฉพาะอะไรที่กรดยูริกสูง
ไขมันเยอะเลี่ยงทันที งดของทดทุกอย่าง หันมาทานอาหารจำพวกผัก ปลา อาหารประเภทต้ม
ผลไม้หลากสีและรสไม่จัดจะดีกว่า เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และบุหรี่ก็จะต้องงดเหมือนกัน
ต่อไปเรื่องสำคัญมากหลายคนชอบละเลยอย่าคิดว่าจะไม่เป็นอะไร
แต่ข้างในร่างกายนั้นมันล้ามากแล้วจะต้องนอนให้ได้ 8 ชั่วโมง พยายามอย่าเครียด
เข้าสังคมบังเลี่ยงอาการซึมเศร้าของตัวเอง
อย่าหมกตัวอยู่แต่ในบ้านออกมาหาอากาศบริสุทธิ์นอกบ้านบ้างให้สะเก็ดเงินโดนแดดแต่ต้องเป็นแดดอ่อน
อาจจะเเดดเช้า
- แดดเย็น อาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้งก็ยังดี จากนั้นหันมาออกกำลังกายเอาแบบพอประมาน
พยายามควบคุมอาหารและแคลอรี่ ผู้ป่วยต้องไม่อ้วน
ต้องลดไขมันเพราะหากยิ่งอ้วนโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ จะตามมา มืออยู่นิ่ง ๆ
เข้าไว้อย่าไปเกาสะเก็ดเงินแต่ให้ทายาและใช้ยาตามที่หมอสั่งอย่างถูกต้อง หากรู้ตัวเองว่ากำลังเป็นโรคสะเก็ดเงินต้องไปพบแพทย์อย่าหายามาใช้เองเพราะบางครั้งมันยิ่งทำให้ผื่นสะเก็ดมีมากขึ้นกว่าเดิม
ระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา
หากมีคนเป็นโรคสะเก็ดเงินในครอบครัวจะต้องดูเด็ก ๆ
เพราะว่าอาจจะเป็นมาจากกรรมพันธ์ได้ถ้ามีผื่นขึ้นให้ไปหาหมอทันที
และข้อสำคัญสุดท้ายนี้ผู้ป่วยอย่าลืมที่จะไปพบแพทย์ตามนัดให้ตรงเวลาทุกครั้ง
อย่าหายามาใช้เอง อย่าไปหลงเชื่อโฆษณาต่าง ๆ
เชื่อหมอเป็นดีที่สุดแล้วอาการจะบรรเทาลงได้
มันจะไม่น่ากลัวหากเราเรียนรู้ที่จะปรับตัวและอยู่กับมันให้เป็นโรคสะเก็ดเงินมันอาจจะสร้างความรำคาญเวลาคันและเป็นขุย
เป็นผื่นไม่น่ามองแต่แน่นอนว่ามันไม่ทำร้ายคนอื่นด้วย ติดต่อกันทางอากาศไม่ได้
ทางการสัมผัสก็ไม่ใช่ สังคมก็ต้องทำความเข้าใจด้วยเช่นกัน
ที่สำคัญสุดตัวผู้ป่วยเองจะต้องเข้มเเข็งและดูแลตัวเองอยู่ตลอดเวลาแล้วจะทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com/howto/health-care/12395.html